โบรกเชียร์ซื้อ SPALI หลังโชว์กำไร Q3 แตะ 2.75 พันล้าน ดีกว่าคาด! ชูเป้าสูง 26 บ.
SPALI โชว์งบไตรมาส 3/65 กำไรกระฉูด 2.75 พันล้านบาท เติบโต 60% จากช่วงปีก่อน 1.72 พันล้านบาท ดีกว่านักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ไว้ ลุ้นกำไรทั้งปี 65 เติบโตต่อเนื่อง โบรกให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 26 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ออกมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งดีกว่านักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์ไว้
โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,748.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.86% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,719.59 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6,001.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,19114 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้กำไรเติบโตแข็งแกร่งมาจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 11,068.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,690.37 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 50% แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮ้าส์ 47% และที่เหลือ 53% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีโครงการอาคารชุดที่สร้างเสร็จและครบกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 7 โครงการ โดยเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 1 ของปี 2565 ขณะที่ในปี 2564 บริษัทฯ มีโครงการอาคารชุดที่สร้างเสร็จและครบกำหนดโอนกรรมสิทธิ์เพียง 4 โครงการ โดยเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายไตรมาส 2
อีกทั้งมีส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมเท่ากับ 84.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 76.00 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 864% เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ของหลายโครงการในประเทศออสเตรเลียในปี 2565 ครบกําหนดการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงครึ่งปีหลังขณะที่ปีก่อนส่วนใหญ่จะโอนกรรมสิทธิ์ช่วงครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตามเมื่อ SPALI ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 และงวด 9 เดือนแรกออกมา ล่าสุดหลายโบรกเกอร์ได้มีการออกบทวิเคราะห์ย้ำว่าผลประกอบการดีกว่าคาด และประเมินแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไรต่อไป
สำหรับ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า PALI รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 3/2565 ที่ 2.75 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 32.5% จากไตรมาสก่อน และ 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวปีก่อน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.3 พันล้านบาท
ขณะที่ยังคงคาดการณ์กําไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 7.22 พันล้านบาท ทำระดับ New High ต่อเนื่องจากปี 2564 จากคาดรายได้จากการโอนที่ 3.2 หมื่นล้านบาท โดยที่ 9 เดือนแรกของปี 2565 ทำยอดโอนรวมไปแล้วที่ 2.46 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 36.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และในช่วงไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะมียอด backlog ที่รอโอน 7.27 พันล้านบาท ทั้ งนี้ ในไตรมาส 4/2565 จะมีโครงการที่รอเปิดตัวเพิ่ม 11 โครงการ (แนวราบ 10 โครงการ และคอนโด 1 โครงการ) และปี 2566 คาดกําไรสุทธิที่ 7.17 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมี Upside จากการโอนโครงการคอนโดใหม่ เมื่อสร้างเสร็จ และจากลูกค้าจีน พร้อมทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าปี 2565 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท
ด้าน บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า SPALI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อน ดีกว่า consensus ทำไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท และดีใกล้เคียงว่าฝ่ายวิจัยคาด
ขณะเดียวกันยังคงประมาณการกำไรปี 2565 ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องที่ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้กำไร 9 เดือนแรกของปี 2565 จะคิดเป็น 79% จากทั้งปี โดยกำไรไตรมาส 4/2565 จะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า จากฐานกำไรที่สูง
สำหรับปี 2566 ยังคงประมาณการกำไรที่ 7.6 พันล้านบาท ทรงตัวได้ดีจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยอดโอนแนวราบจะเติบโตได้ดีขึ้นจากแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นมาก ขณะทีคอนโดส่วนใหญ่จะเป็นการโอนต่อเนื่องจากปี 2565 ที่มีคอนโดเริ่มโอน 7 โครงการ ส่วนปี 2566 จะมีคอนโดใหม่เริ่มโอน 3 โครงการนอกจากนั้น ส่วนแบ่งกาไรจากบริษัทร่วมในออสเตรเลียจะยังคงมีการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีส่วนแบ่งกาไรต่อปีราว 450-500 ล้านบาท คิดเป็น 5%-7% ของกำไรรวม แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท
ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า SPALI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัย 8% และสูงกว่า consensus 9%
ขณะเดียวกันเมื่อมองแนวโน้มในไตรมาส 4/2565 เชื่อว่าโมเมนตัมกําไรจะลดลงทั้งจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับงวดเดียของปีก่อน เนื่องจากไม่มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่จะพร้อมโอนในไตรมาส 4/2565 เทียบจากที่มี 3 โครงการในไตรมาส 4/2564 และมองว่าแนวโน้มการเติบโตของกําไร SPALI มีความท่าทายในปี 2566เพราะบริษัทมีคอนโดมิเนียมใหม่ที่จะโอนได้ในปีหน้าเพียง 3 โครงการเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าปีนี้ที่มี 7 โครงการ อย่างไรก็ตาม ยอดโอนคอนโดมิเนียมที่ลดลงจะถูกชดเชยด้วยยอดโอนที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของโครงการแนวราบซึ่งยังคงขยายตัวได้ดี แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 25.80 บาท อิงจาก PE ที่ 7 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า SPALI รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 ออกมาน่าประทับใจที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อน ดีกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัย 7% และดีกว่า consensus 9%
สำหรับในระยะต่อไป คาดว่ากําไรของ SPALI จะแผ่วลงทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานสูงจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมในไตรมาส 4/2564 รวมทั้ง SPALI ไม่ได้โครงการใหม่เริ่มโอนในไตรมาส 4/2565
ทั้งนี้ปัจจุบันราคาหุ้น SPALI ยังถูกและยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง คงคําแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่
26.00 บาท (จากเดิม 24.00 บาท) อิงจาก P/E ปี 2566 ที่ 7.9 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว