SABUY ตั้ง 4 โฮลดิ้ง เสริมแกร่ง “SABUYVERSE” ปักธงรายได้ปีนี้ 5 พันล้าน
SABUY โชว์กำไร Q3/65 แตะ 501 ลบ. ทะยาน 793% ส่วนงวด 9 เดือน กำไร 964 ล้านบาท โตแรง 605% จัดตั้งโฮลดิ้ง 4 บริษัท รองรับปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ตอกย้ำศักยภาพแกร่งครอบคลุมระบบ Ecosystem ใน SABUYVERSE ครบวงจร
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 496 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งรายได้รวมเพิ่มขึ้น 401 ล้านบาท คิดเป็น 53% จากการเติบโตของธุรกิจเดิมในเครือและธุรกิจใหม่ มีกำไรข้างต้นเท่ากับ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 66% และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 155 ล้านบาท คิดเป็น 72%
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 31.9% ลดลงเล็กน้อยจาก 33.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจาก 28.4% จากไตรมาสที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 444 ล้านบาท คิดเป็น 793% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา กำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 144 ล้านบาท คิดเป็น 41%
อีกทั้ง SABUY ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทต่างๆ ในกลุ่มของ SABUY ซึ่งมีทั้งหมด 6 กลุ่มธุรกิจคือ 1.Connext ธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่ายและเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม, 2.Enterprise & Life ธุรกิจให้บริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ด้วยความเข้าใจผู้บริโภค, 3.Payments and Wallet ธุรกิจบริการด้านการชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์, 4. Financial Inclusion ธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย และ 5.InnoTainment ธุรกิจนวัตกรรมทางสื่อ ดิจิทัลมีเดีย และเครือข่าย 6. Venture ธุรกิจการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน
นอกจากนี้รายได้ 401 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นระหว่างไตรมาส 2 และ 3 มาจากกลุ่มธุรกิจเดิม เช่น SABUY Tech, Plus Tech, Vending Plus, SABUY Solutions, SPEED, etc ซึ่งเป็นสัดส่วนถึง 64% และมาจากธุรกิจใหม่ของบริษัทอีก 36% ซึ่งบางบริษัทยังเข้ามาไม่เต็มไตรมาส ทำให้เห็นได้ว่า กลุ่มสบายมีศักยภาพในการเติบโตของรายได้อีกมาก
คณะกรรมการบริษัทฯ SABUY ได้มีพิจารณาและมีมติที่สำคัญดังต่อไปนี้
1.อนุมัติแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) เพื่อศึกษาแนวทางการจัดโครงสร้างกลุ่มบริษัท
2.การจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งจำนวน 4 แห่งเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างใน SABUY โดย 4 บริษัท จะรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจ (1) Connext เพื่อจัดโครงสร้างธุรกิจผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม, (2) Enterprise & Life เพื่อรองรับธุรกิจบริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค, (3) SPEED เพื่อรองรับธุรกิจ drop-off (โดย SABUY จะถือ 82%) และ (4) AIT เพื่อรองรับธุรกิจ infrastructure ที่บริษัทได้เข้าลงทุนใน AIT
3.พิจารณาอนุมัติยกเลิกการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 3 (SABUY-WC) ชุดเดิม
4.พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 3 (SABUY-WC) ชุดใหม่
5.พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-WC ให้แก่กรรมการ และผู้บริหาร รายที่ได้รับการจัดสรรเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เสนอขาย จำนวนไม่เกิน 4,000,000 หน่วย (ภายใต้การออกใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-WC ชุดใหม่ จำนวน 40,000,000 หน่วย) ซึ่งได้แก่ นายวิรัช มรกตกาล
6.พิจารณายกเลิกการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกเพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 53,878,650 หุ้น
7.พิจารณาการจดทะเบียนลดทุนที่ยังไม่ชำระจากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,249,389,341 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 2,155,510,691 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัท ทั้งหมดจำนวน 93,878,650 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
8.พิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จึงต้องมีการพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจำนวน 40,000,000 บาท มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท จำนวน 40,000,000 หุ้น จากทุนจดทะเบียน 2,155,510,691 บาท เป็น 2,195,510,691 บาท
9.อนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นสำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2565 (Record Date) ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 และการกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2565 ในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Meeting) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น โดยถ่ายทอดสดจากห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 230 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นและคงเป้าหมายรายได้ปี 2565 ที่ 5,000 ล้านบาท จากธุรกิจเดิมประมาณ 3,000 ล้านบาท เพิ่มเติมด้วยธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Connext ประมาณ 500 ล้านบาท และEnterprise & Life ประมาณ 1,300 ล้านบาท พร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้ถึง 20,000 ล้านบาท ในปี 2566 ที่ประกอบด้วย ธุรกิจเดิม 5,000 ล้านบาท ธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Enterprise & Life ประมาณ 9,000 ล้านบาท กลุ่ม Connext ประมาณ 3,000 ล้านบาท กลุ่ม InnoTainment ประมาณ 1,000 ล้านบาท และกลุ่ม Financial Inclusion ประมาณ 2,000 ล้านบาท
“ต่อเนื่องจากการปรับกลุ่มธุรกิจ บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจ Connext ผ่าน Drop-off ต่างๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เครื่องกรองน้ำ จาก TSR และสินค้าผ่าน Vending, และธุรกิจ Enterprise & Life ผ่านทาง PTECH เพื่อธุรกิจบริการสำหรับองค์กร ผ่าน SABUY Solutions, SABUY POS และ CRM ผ่าน Buzzebees ในขณะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโดยการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีจากการบริหารงานเป็นกลุ่มบริษัทเข้าด้วยกัน เช่น กลุ่ม Drop-off ตลอดจนการนำบริษัทอื่นๆ เข้ารวมกลุ่มเช่น CitySoft, TSR, SABUY Alliance, iSoftel ฯลฯ” นายชูเกียรติ กล่าว
โดยจากความมุ่งมั่นที่ SABUY ได้มีการขยายธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ด้าน Sustainability ในการเติบโต หรือ Growth Strategy อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับในส่วนของการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Growth นั้น บริษัทฯ ได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในระบบงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลบริษัทที่ดี การตรวจสอบภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้ SABUY สามารถเติบโต มั่นคง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต