PR9 โชว์งบ 9 เดือนกำไร 428 ลบ. รับยอดผู้ป่วยพุ่ง มั่นใจปี 65 รายได้ตามเป้า 3.9 พันลบ.
PR9 โชว์งบ 9 เดือนทำรายได้ 3,034.1 ลบ. กำไรโตแตะ 428.9 ลบ. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับอานิสงส์ยอดผู้ป่วยใน-นอกประเทศเพิ่ม ส่วนทิศทางธุรกิจ Q4 เข้าสู่ไฮซีซั่น ลุยรีโนเวทอาคารเพิ่มพื้นที่รองรับผู้ป่วย มั่นใจรายได้ทั้งปี 65 ตามเป้า 3,900 ลบ.
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิดังนี้
นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ PR9 ผู้ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 65 ว่า บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,034.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,080.0 ล้านบาท จำนวน 954.1 ล้านบาท หรือ 45.9% และมีกำไรสุทธิ 428.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 133.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 221.8%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/65 บริษัทมีรายได้รวม 1,074.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315.4 ล้านบาท หรือเติบโต 41.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 759.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 147.0 ล้านบาท หรือเติบโต 77.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำไว้ 82.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นทำนิวไฮทั้งรายได้และกำไร มีปัจจัยสนับสนุนมาจากกลุ่มคนไข้ในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการรักษาโรคซับซ้อน และโรคประจำฤดูฝน เช่น โรค RSV ทำให้มีผู้ป่วยทั้งผู้ใหญ่และเด็กเข้ารับบริการจำนวนมาก ด้วยความเชื่อมั่นด้านคุณภาพการรักษา จากบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญการและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยของ PR9
ประกอบกับคนไข้ต่างชาติกลับมารักษามากขึ้นจากการที่ไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการส่งผลให้ต่างชาติเริ่มบินกลับเข้ามารับการรักษาโรคซับซ้อน อาทิ โรคไต, หัวใจ, มะเร็ง, เบาหวาน โดยสัดส่วนคนไข้ต่างชาติกลับมาสู่ช่วงก่อน Covid -19 แล้วอยู่ที่ 16% และสัดส่วนคนไข้ในประเทศอยู่ที่ 84%
สำหรับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจไตรมาส 4/65 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/65 เนื่องจาก เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล โดยเริ่มเห็นแนวโน้มผู้ป่วยเข้ารับรักษาจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว และถึงรอบการเช็คสุขภาพประจำปี รวมถึงการเสริมความงาม การทำเลสิค ส่งผลให้เคสผ่าตัดขยายตัวขึ้นตามไปด้วย
ส่วนแผนการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี 65 บริษัทอยู่ระหว่างทยอยรีโนเวทแผนกผู้ป่วยทั่วไปของอาคาร A ชั้น 2 และอาคาร B เพื่อเพิ่มความทันสมัยและศักยภาพพื้นที่การให้บริการสำหรับรองรับผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยปัจจุบันเปิดใช้พื้นที่ให้บริการห้องพักผู้ป่วย (Ward) แล้วกว่า 80% ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนปรับพื้นที่ชั้น 1 อาคาร B เพื่อเปิดให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ “International Center” เพิ่มเติมด้วย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าหลังจากรีโนเวทเฟสแรกแล้วเสร็จน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 65 และส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการช่วงกลางปี 66 ในลำดับต่อไป
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายแพลตฟอร์มดูแลผู้สูงอายุเกี่ยวกับการดูแลเฉพาะทางที่เป็นโรคซับซ้อน เชื่อมโยงโลกธุรกิจกับโลกเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยีเมตาเวิร์ส (Metaverse) เพื่อก้าวสู่ผู้นำด้าน Digital Hospital โดยเป็นการรองรับระบบ Telemedicine หรือการรักษากับแพทย์ทางไกลเสมือนจริงแบบ Real Time รวมถึงขยายการบริการใหม่ๆ ที่หลากหลาย เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งการเสริมความงามและการดูแลสุขภาพ
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโปรเจ็กต์อื่น ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากการรักษาพยาบาล อาทิ วิตามินเสริม, การเปิดร้านขายยา และการหาพันธมิตรภาคอีสานและภาคเหนือ เพื่อส่งคนไข้โรคไตเข้ารับการรักษาที่ PR9 เพื่อมองหาโอกาสการลงทุนที่เหมาะสมและคุ้มค่า ซึ่งแผนงานดังกล่าวเชื่อมั่นว่าจะเป็นการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
“บริษัทเชื่อมั่นว่าแผนการดำเนินงานที่วางไว้ จะส่งผลให้การเติบโตรายได้รวมทั้งปี 65 เป็นไปตามเป้าหมาย 3.9 พันล้านบาท เพราะไตรมาส 4 ของทุกปีเป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล และแม้ว่ารายได้ Covid ลดลงไปบ้าง แต่ยังมีรายได้ส่วนอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น รายได้จากผู้ป่วย Long Covid, รวมถึงรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติมีทิศทางปรับตัวที่ดี โดยเฉพาะผู้ป่วยจาก CLMV และจากการขยายฐานลูกค้าต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย (Expat) เพิ่มขึ้น” นพ.เสถียร กล่าว