GULF กำไร 9 เดือนโต 29% ทะลุ 6 พันลบ. รับรายได้โรงไฟฟ้า GSRC-BKR2 หนุน

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ ดังนี้

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 65 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 6,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.9% จากปีก่อน โดยเติบโตได้จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC และกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า BKR2 แม้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 จะมีบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบบริษัทใหญ่และกำไรจากตราสารอนุพันธ์ของ PTT NGD และ GULF GUNKUL รวมขาดทุนสุทธิ 2,493 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนจากรายการดังกล่าว รวม 1,457 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 24,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.2% จากปีก่อน แต่ลดลง 1.1% จากไตรมาสก่อน และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 71,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.1% ประกอบไปด้วย

1) บริษัทมีรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 19,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.0% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 2 และ 3 ซึ่งได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 และ 31 มีนาคม 2565 ตามลำดับ ประกอบกับราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยปรับสูงขึ้นตามทิศทางเดียวกับต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติแต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 รายได้จากธุรกิจผลิต ไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติลดลง 7.4% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. จากโครงการโรงไฟฟ้า GSRC ที่ปรับลดลง ซึ่งเป็นไปตามการบริหารจัดการการผลิตไฟฟ้าในประเทศของ กฟผ.

สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2565 รายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซ ธรรมชาติอยู่ที่ 58,353 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 81.9% ของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 113.8% จากปีก่อน จากรายได้ของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 2 และ 3 และราคาขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติ

2) รายได้จากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 2,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.7% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 61.9% จากไตรมาสก่อน โดยหลักมาจากโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล BKR2 ที่ได้รับราคาขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/65 นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล GCG มีรายได้เพิ่มขึ้นตามค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 5,899 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8.3% ของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 34.1% จากปีก่อน ตามราคาขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า BKR2 และ curtailment ที่ลดลงในประเทศเวียดนาม ประกอบกับโรงไฟฟ้า GCG ได้รับค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น

3) รายได้จากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 1,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3400.1% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 309.7% จากไตรมาสก่อน ตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม MTP3 ในส่วนของงานถมทะเล และสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 2,512 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 3.5% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 1682.4% จากปีก่อน ตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการMTP3