“กลุ่มเจมาร์ท” โชว์งบ 9 เดือนแรก โกยกำไร 3.3 พันล้าน ชู JMT เป้า 85 บ.

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ของกลุ่ม “เจมาร์ท” ได้แก่ JMART, JMT, SINGER, และ J  ซึ่งได้ประกาศออกมาครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่ากำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนจากนักวิเคราะห์ประเมินและตลาดคาดการณ์ไว้

สำหรับภาพรวมกำไรสุทธิกลุ่มเจมาร์ทในช่วงไตรมาส 3/2565 พบว่ามีกำไรรวม 1,298.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.73% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 792.81 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรรวม 3,352.66 เพิ่มขึ้น 46.01% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 2,296.12 ล้านบาท รายละเอียดตัวเลขผลประกอบการดูจากตารางประกอบ ดังนี้

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 563.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 269.93 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,278.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.94% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 835.64 ล้านบาท เนื่องจากการดำเนินงานที่เริ่มกลับมาเป็นปกติและมีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มือถือออกใหม่ในช่วงไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งรายได้ดอกเบี้ยจากเงินซื้อลูกหนี้ พร้อมกำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ รวมถึงรายได้จากธุรกิจบริหารหนี้ และรายได้จากการรับประกันภัย นอกจากนั้นยังมีการรับรู้กำไรที่เกิดขึ้นจากการเข้าไปลงทุนในบริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR ในช่วงไตรมาส 3/65 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดการณ์กำไรปี 2565 – 2566 โตได้เฉลี่ยสูงถึง 38% และกำไรยังมีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปในระยะยาวจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีอัพไซด์ที่ยังไม่รวมในประมาณการจากหลายโครงการ เช่น ธุรกิจการขายแผงโซล่าร์รูฟท็อป, การร่วมทุนกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่นตามหัวเมืองต่างๆ (JayDee) และความร่วมมือกับ BRR โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 2565 อยู่ที่ 63.00 บาท

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 455.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.53% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 351.69 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรงปี 2565 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ 1,255.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.01% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 923.32 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเติบโตดังกล่าวมาจากการ ขยายการลงทุนในหนี้ด้อยคุณภาพที่มีศักยภาพ และการจัดเก็บที่ดี

นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2565 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนทำนิวไฮรายไตรมาส เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ทำให้อาจเห็นกระแสเงินสดจากยอดจัดเก็บเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บวกกับจะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจาก JK AMC เข้ามาเต็มไตรมาส หลังในไตรมาส 3/2565 เพิ่งเริ่มดำเนินงานในช่วงปลายไตรมาสเท่านั้น อีกทั้งธุรกิจประกันยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยคาดกำไรปี 2565 ที่ 1,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรงวด 9 เดือนของปี 2565 คิดเป็นราว 68% ของประมาณการทั้งปี โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 85 บาท

บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 261.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.08% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 165.13 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ 741.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.06% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 487.88 ล้านบาทโดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าและรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อและเงินให้กู้ยืม อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายที่สำคัญสำหรับงวดเก้าเดือนมาจากสินค้า 5 ลำดับแรก ซึ่งก็คือตู้น้ำมัน โทรศัพท์มือถือ ตู้แช่ โทรทัศน์และเครื่องซักผ้า

นอกจากนี้ บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเมินสินเชื่อของบริษัทจะมีโอกาสที่จะขยายตัวสูงใน 1-2 ปีข้างหน้าจากฐานทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะภายหลังการ IPO SG Capital และคาดจะเริ่ม synergy กับ BRR ในปลายปี 2565 จนถึงต้นปี 2566

บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 18.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6.06 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ 76.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.21% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 49.28 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น และมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเพิ่มขึ้น