BIS ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 20% เตรียมวางจำหน่าย 2 ผลิตภัณฑ์บุกตลาดธ.ค.นี้

นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 14 พ.ย. 65 เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 43.11 ล้านบาท และรายได้รวมอยู่ที่ 1,637.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,416.58 ล้าบาท

โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจาก 3 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับสัตว์ (Diagnostic), ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition) และ ผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์(Ingredient)โดยมีสาเหตุหลักมาจากสินค้ากลุ่มเพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับสัตว์ (Diagnostic) ได้แก่ ชุดเครื่องตรวจโรคสำหรับปศุสัตว์ยังคงมีความต้องการในตลาดสูงอย่างต่อเนื่องจากคุณภาพของสินค้าที่โดดเด่นของบริษัทฯ เพื่อให้ฟาร์มสุกรต้องใช้ตรวจคัดกรองโรค ASF ก่อนนำพ่อแม่พันธุ์ หรือลูกสุกรอนุบาลเข้าสู่ฟาร์ม และชุดเครื่องตรวจสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากตลาดมีการเติบโตจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้น และเป็นตลาดที่บริษัทฯมองว่ามีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/65 สดใส มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 10-20%

ทั้งนี้บริษัทวางกลยุทธ์เติบโตในปี 66-71 โดยเน้นการหาพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจทั้งในต่างประเทศและต่างประเทศ และการนำเอาองค์ความรู้ของสัตว์แพทย์ไทยที่มีความรู้ความสามารถมาต่อยอดเพื่อเป้าหมายของการส่งออกไปในกลุ่ม CLMV โดยโฟกัสตลาดเวียดนามเป็นหลัก

โดยเน้นใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ 1.กลุ่มไบโอเทคทั้งในส่วนของยาและวัคซีนสัตว์, 2.การลงทุนในโรงงานและเน้นสินค้าในโรงงาน และต่อยอดสารเสริมในสัตว์ได้ โดยเฉพาะสินค้าที่บริษัทร่วมกันวิจัยกับร่วมมือกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTECH) คือ ผลิตสินค้าสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ ประเภท “สารทดแทนน้ำมันในอาหารสัตว์” ภายใต้ชื่อแบรนด์ Lypotech EC โดยสามารถผลิตและวางจำหน่ายได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป และ 3.เน้นธุรกิจสัตว์เลี้ยง

สำหรับสารทดแทนน้ำมันในอาหารสัตว์บริษัทตั้งเป้ากำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 40 ตันต่อเดือน โดยปีหน้าวางแผนไว้ที่ 380 ตัน ซึ่งปัจจุบันสินค้าชุดแรกที่จะผลิตออกมาลูกค้าที่ได้แสดงความสนใจเข้ามาสั่งจองแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนปีหน้ามั่นใจจะผลิตได้เต็มกำลัง

ด้านการร่วมมือกับคณะสัตว์แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิจัยเกี่ยวกับเรื่องการใช้สาร CBD คาดว่าน่าจะทำตลาดและจัดจำหน่ายได้ในเดือนธันวาคมนี้ โดยเป็นสาร CBD ผสมในแชมพูและสมูธต่างๆเพื่อรักษาโรคผิวหนังให้กับสุนัขและแมว โดยเป็นยาทาภายนอกปลอดภัย

ส่วนธุรกิจตัวแทนจำหน่ายอาหารสุนัขระดับโลกแบรนด์ Pedigree และอาหารแมว แบรนด์ Cesar ให้กับกลุ่ม บริษัท มาร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ไตรมาส2 /65 โดยมุ่งทำตลาดในกลุ่มโรงพยาบาลสัตว์ และคลินิก บริษัทสามารถขยายฐานได้ประมาณ 500 ราย จากฐานตลาดคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ประมาณ 1,500-1,800 แห่ง

ส่วนความคืบหน้าธุรกิจวัคซีน PRRSVAX คาดว่าจะเปิดตัวในต้นปี 67 เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาให้สินค้ามีคุณภาพ เพื่อนำไปใช้ต่อยอดในการใช้ประกอบการจดทะเบียนอย.

“มาถึงวันนี้บริษัทเข้าตลาดฯมาแล้วประมาณ 6 เดือนก็จะเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญของกลุ่มบริษัทที่จะเป็นหุ้นสัตว์แพทย์รายแรกที่เข้าตลาดและมีโอกาสเติบโตจาก 3 ธุรกิจหลักไบโอเทค-โรงงานและสินค้าโรงงานบุกตลาดเวียดนาม-สัตว์เลี้ยง ซึ่งยังเติบโตในอนาคต”