TM เดินเกมรุก “Nursing Home” เปิดบริการเฟสแรก หนุนรายได้โต
TM เปิดให้บริการ “ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ” อย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าปรับกลยุทธ์การขาย จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์-วัสดุสิ้นเปลือง-เครื่องมือทางการแพทย์ เพิ่มแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น หวังขยายฐานลูกค้าใหม่
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ เดินหน้าการลงทุนในธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ภายใต้โครงการ “THE PARENTS” โดยล่าสุดในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการThe Parents Nursing Home เพื่อให้บริการส่งเสริม ฟื้นฟู ดูแล สุขภาพผู้สูงอายุในทุกสภาวะของร่างกาย ทั้งติดเตียงและไม่ติดเตียง แต่ต้องการคนดูแลและกลุ่มที่ยังช่วยตัวเองได้แต่ยังชอบเข้าสังคมให้ได้มีทำกิจกรรมร่วมกันที่เป็นไลฟ์สไตล์ของตนเองด้วย ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้สูงอายุ สำหรับการเปิดโครงการนี้ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ สู่กลุ่มธุรกิจ Wellness Center สำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร
ทั้งนี้ THE PARENTS เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทเนื่องจากธุรกิจหลัก (Core Business) คือการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง และกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับฆ่าเชื้อ–อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัส
ดังนั้นจึงสามารถต่อยอดในการจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ ภายใต้ TM เข้า THE PARENTS ได้ทั้งหมด โดยเชื่อว่าดีมานด์การใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ เฉลี่ยแต่ละปีจะทยอยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากข้อมูลสถิติอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ มูลค่าการส่งออกที่ไทยส่งออกไปตลาดโลก ระหว่างปี 62 – 64 ขยายตัวต่อเนื่อง 0.7% 5.4% และ 18.1% ตามลำดับ สะท้อนถึงความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ประเมินว่า ปี 65 การส่งออกเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ จะเติบโตสูงถึง 19.2% สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 32,000 ล้านบาท ซึ่งจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ ดังนั้นจึงมองว่าตลาดผู้สูงอายุยังโตได้อีกมาก
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าปรับกลยุทธ์การขายในส่วนการจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง และอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แบบเชิงรุกผ่านช่องขายแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้ารายใหม่
โดยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 65 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า จำนวน 472.69 ล้านบาท ลดลง 9.1% และมีกำไรสุทธิ ที่ 7.56 ล้านบาท ลดลง 67.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.29 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง จำนวน 454.60 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 499.72 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 3/65 บริษัทฯ ไม่ได้มีการขาย ATK ส่งผลให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้ปรับตัวลดลง
ในส่วนของบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านการขายโดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าชนิดอื่นๆ เช่น สินค้าใช้แล้วทิ้งในห้องผ่าตัด สินค้ากลุ่มที่ใช้ในธนาคารเลือด มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2/65 และกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลให้การดำเนินงานในโรงพยาบาลโดยเฉพาะห้องผ่าตัดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความต้องการสินค้าดังกล่าวกลับมาใช้เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันด้านกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ จำนวน 18.77 ล้านบาท ลดลง 8.7% เนื่องจากบริษัทฯได้ยกเลิกสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจในปี 62 ส่งผลให้ยอดขายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ลดลง ในขณะเดียวกันหากพิจารณาจากอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายสินค้ากลุ่มผ่าตัดหัวใจลดลง และบริษัทฯ มียอดขายกลุ่มที่ใช้ในธนาคารเลือดเพิ่มขึ้น สินค้ากลุ่มที่ใช้ในธนาคารเลือดได้แก่ ถุงเลือด เครื่องซีลถุงเลือด เป็นต้น