ไม่สรุป “เอเชีย เวลท์” ขาดสภาพคล่อง “ก.ล.ต.” ชี้ยักเงินลูกค้าแค่ทำผิดกฎ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวด่วน จากกรณีที่ คณะกรรมการกำกับตลาดทุน หรือ ก.ต.ท. มีคำสั่งระงับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ เป็นการชั่วคราว หลัง บล. เอเชีย เวลท์ จำกัด แจ้งต่อ ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. ตรวจพบว่า บริษัทมีการนำเงินของลูกค้าที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไปชำระเป็นค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี  โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอมให้ดำเนินการดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 157.99 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินงานในลักษณะนี้ อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทรัพย์สินของลูกค้าของบริษัทนั้น

ด้าน นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. พร้อมด้วยผู้บริหาร ได้ชี้แจงว่า คำสั่งระงับการดำเนินธุรกิจของ บล.เอเชีย เวลท์  เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อพบว่าบริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ในการควบคุมดูแลของ ก.ล.ต.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งคำสั่งของ ก.ต.ท.ที่ออกมาถือเป็นมาตรการปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับนักลงทุน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า บล.เอเชีย เวลท์  มีฐานะทางการเงินที่ไม่มั่นคงในการดำเนินธุรกิจ และยังเร็วเกินไปที่จะสรุปในเรื่องดังกล่าว

ขณะนี้ยังต้องรอว่า บล.เอเชีย เวลท์ จะสามารถนำเงินมาคืนในบัญชีลูกค้าได้ตามกำหนดวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้หรือไม่ โดย ก.ล.ต.ได้เตรียมแนวทางดำเนินการไว้แล้วทั้งกรณีที่สามารถคืนเงินได้ และคืนเงินไม่ได้ ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้บริหาร บล.เอเชีย เวลท์ในเบื้องต้น บริษัทแจ้งว่ามีแผนงานอยู่หลายช่องทาง จึงจะรอให้ถึงเวลานั้นก่อน ส่วนจะนำไปถึงความผิดในส่วนอื่น ๆ หรือกฎหมายฉบับอื่นด้วยหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณากันในขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากเกิดกรณีการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ที่ผิดปกติ ก.ล.ต.ก็ได้ถือว่าเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน จึงได้ร่วมประสานงานกับทาง ตลท. ลงไปตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ โดย ณ ขณะนี้นอกเหนือจาก บล.เอเชีย เวลท์ แล้วก็ยังไม่พบว่ามี บริษัทหลักทรัพย์แห่งอื่นที่น่าเป็นห่วง

ส่วนการซื้อขายหุ้น MORE ที่ผิดปกตินั้น นางสาวรื่นวดี ยืนยันว่า ก.ล.ต.ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการค้นหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง