เปิดโผ 5 หุ้น SET โกยกำไร Q3 โตสนั่น 10 เท่าตัว
เปิดโผ 5 หุ้น SET โกยกำไรไตรมาส 3 /65 โตทะลักเกิน 10 เท่าตัว ชู PYLON แชมป์ผลงานเติบโตสูงสุด พร้อมจับตากำไรทั้งปีนี้โตสนั่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจ” สำรวจข้อมูลการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ SET โดยมีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นเกิน 1,000% โดยคัดเลือก 5 อันดับแรกของกลุ่มที่ประกาศผลการดำเนินงานเข้าหลักเกณฑ์ตามตารางประกอบดังนี้ PYLON-CSR-CMAN-CPN และ NFC
อันดับ 1 บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 41.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,125.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 0.34 ล้านบาท
ด้าน ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 3 ปี 65 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12,125.39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีรายได้รวมจากการให้บริการ 261.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 86.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.28%
ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 116.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 417.22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 22.57 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมจากการให้บริการ 988.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 447.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 82.77
โดยประเมินภาพรวมธุรกิจในปีนี้ช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา ผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยมีแรงหนุนจากการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่อยู่ระดับสูง แม้สถานการณ์สงครามและราคาน้ำมันแพงเป็นปัจจัยลบ แต่บริษัทยังสามารถบริหารต้นทุนได้ค่อนข้างดี ส่วนช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวบรรยากาศการลงทุนของผู้ประกอบการเริ่มคึกคักมากขึ้นเป็นผลบวกต่อ PYLON โดยบริษัทยังมุ่งเน้นรับงานโครงการใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) แข็งแกร่งอยู่ที่ราว 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเข้าประมูลงานโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานของภาครัฐและภาคเอกชนโดยจะเน้นโครงการที่มีศักยภาพ โดยมีโอกาสได้งานเพิ่ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณงานในมือ (Backlog) ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
อันดับ 2 บริษัท เทพธานีกรีฑา จำกัด (มหาชน) หรือ CSR ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 9.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,492.65 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 0.61 ล้านบาท
โดยผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเนื่องจากเนื่องจากธุรกิจสนามกอล์ฟ รายได้จากการบริการสนามกอล์ฟเพิ่มขึ้น 11.38 ล้านบาท จากจำนวนนักกอล์ฟ และค่าบำรุงสมาชิกกอล์ฟที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าธรรมเนียมจากการโอนบัตรสิทธิลดลง นอกจากนี้ธุรกิจภัตคาร รายได้จากภัตตาการเพิ่มขึ้น 4.89 ล้านบาท ตามจำนวนนักกอล์ฟที่เพิ่มขึ้น
อันดับ 3 บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) หรือ CMAN ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 71.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,234.78 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 66.49 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้ขายเพิ่มขึ้น 20.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็น 880 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้ยอดส่งออกสินค้าจากฐานการผลิตในประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 41 ของยอดขายสินค้า การอ่อนค่าของเงินบาท ส่งผลให้รายได้จากการขายเป็นไปในทิศทางบวก
ด้านรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ เนื่องจากค่าบริการต่อหน่วยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% ด้านความต้องการปูนไลม์ที่ยังคงสูงในอุตสาหกรรมเหมืองนิกเกิล และอุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ในส่วนของปริมาณขายปูนไฮเดรตไลม์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่มาจากปริมาณการส่งออกสินค้าจากโรงงานฮาลองไลม์ที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนแนวโน้มธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีกำลังการผลิตปูนไลม์กว่า 1 ล้านตันต่อปี อีกทั้งมีเหมืองแร่หินปูนเคมีคุณภาพสูงในประเทศไทยและเวียดนาม และโรงงานผลิตปูนไลม์ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอินเดีย ทำให้บริษัทสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่โลหะและอโลหะต่าง ๆ เช่น ทองคำ อลูมิเนียม ทองแดง นิกเกิล ลิเทียม รวมถึงอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ อุตสาหกรรมน้ำตาล และอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ขณะเดียวกันปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าประมาณ 60% ของกำลังการผลิตรวม ไปยัง 30 ประเทศใน 3 ทวีป ประกอบด้วย ทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และแอฟริกา
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ หรือช่วงต้นปีหน้า ซึ่งน่าจะช่วยประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งจะมีการทดลองรถบรรทุกไฟฟ้า (EV trucks) คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนในการทดลอง ก่อนจะมีการใช้ในอนาคต
อันดับ 4 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 2,872.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,153.19 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 229.18 ล้านบาท
ด้านนางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ CPN เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,154% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 สอดคล้องกับรายได้รวม 9,349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 ที่มีรายได้รวม 5,103 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาส 2/65 ที่มีรายได้รวม 9,151 ล้านบาท บวกกับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น และยังสามารถบริหารค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่าง ๆ ได้ดี
ดังนั้นส่งผลให้ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ 7,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 อยู่ที่ 5,332 ล้านบาท และมีรายได้รวม 26,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 อยู่ที่ 20,995 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้ารวม 39 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ รวมถึงศูนย์การค้าเอสพลานาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกะ บางนา (ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) และคอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) นอกจากนี้ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 3 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 25 โครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” big project ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการในปี66-67 เป็นต้นไป
สำหรับทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 65-69) บริษัทเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้ว และยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
ขณะที่ การลงทุน 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะลงทุนโครงการในรูปแบบ Retail-Led Mixed-Use Development โดยประกาศเปิดตัว 2 โครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” และ “เซ็นทรัล นครปฐม” รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท ที่จะเปิดให้บริการไตรมาส 1/67 และไตรมาส 2/67
นอกจากนี้ CPN ยังเดินหน้าพันธกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมายการเป็นองค์กรอสังหาริมทรัพย์ไทยรายแรกสู่ Net Zero ภายในปี 2050 ขยายสถานี EV Charger ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่งทั่วประเทศ และโครงการ “One Million Trees Movement-ปลูกป่าซับคาร์บอน
อันดับ 5 บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) NFC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 47.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,039.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4.15 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 810.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 120.33% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564
โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เคมี 732.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.36% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ซึ่งเกิดจากรายได้จากการขายกรดกํามะถัน แอมโมเนียเพิ่มขึ้น นอกจากนี้รายได้จากการให้บริการ 77.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218.73 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ซึ่งเกิดจากรายได้การให้บริการคลังสินค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้จากข้อมูลประกอบดังกล่าวคาดว่าผลงานหุ้นกลุ่ม SET ปี 65 คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากปัจจัยราคาพลังงานพุ่งและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น