BANPU ส่ง “BKV” เข้าตลาดนิวยอร์กปี 66 ระดมทุนขยายกิจการ-ใช้หนี้กู้ยืม
BANPU ส่งบ.ย่อย “BKV Corporation” เข้าเทรดตลาดนิวยอร์ก ภายในปี 66 หวังระดมทุนขยายกิจการ-ใช้หนี้กู้ยืม และเป็นทุนหมุนเวียน รวมถึงสร้างเกียรติภูมิและชื่อเสียงที่ดีให้แก่บริษัทฯ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์รวมถึงร่างหนังสือชี้ชวน (Public Filing) ต่อ U.S. Securities and Exchange Commission เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย BKV จะเริ่มเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ภายใต้แผนการทำ IPO ภายหลังจากที่ U.S. Securities and Exchange Commission ได้ประกาศว่าแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ มีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าการเสนอขายหุ้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายใน ปี 2566
สำหรับราคาเสนอขายจะมาจากการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นใน BKV (Book Building) ของผู้ลงทุนสถาบัน และได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการชุดย่อยของ BKV ซึ่งทำหน้าที่กำหนดราคาเสนอขาย (Pricing Committee)
ทั้งนี้ BKV Corporation ดำเนินธุรกิจหลักของ BKV คือดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติจากกิจการที่ BKV เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินการ
อย่างไรก็ดี BKV มีแผนการใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ภายใต้แผนการทำ IPO เพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ บริษัท Banpu North America Corporation ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ นอกจากนี้เพื่อใช้เป็นค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงาน (Contingent Payment หรือ Earnout) จากการเข้าลงทุนซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เน็ตต์จาก Devon Energy Corp. และเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจทั่วไป (General Corporate Purposes) รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขยายกิจการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture,Utilization and Sequestration หรือ CCUS)
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญของ BKV ภายใต้แผนการทำ IPO ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่สำคัญดังต่อไปนี้
1.ราคาเสนอขายได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการชุดย่อยของ BKV ซึ่งทำหน้าที่กำหนดราคาเสนอขาย (Pricing Committee)
2.U.S. Securities and Exchange Commission ได้ประกาศว่าแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์มีผลบังคับใช้แล้ว
3.BKV ได้รับอนุญาตจาก New York Stock Exchange ให้รับหุ้นสามัญของ BKV เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
สำหรับการดำเนินการตามแผนการทำ IPO เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจของ BKV จากการเข้าสู่ตลาดทุน และขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2568 นอกจากนี้บริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำรายการดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์ ดังนี้
1.BKV จะสามารถระดมทุนได้เองผ่านการทำ IPO และอาจระดมทุนเพิ่มเติมจากตลาดทุนในอนาคต
2.ราคาหุ้นของบริษัทฯ อาจสะท้อนมูลค่าของเงินลงทุนใน BKV ได้มากขึ้น เนื่องจากมีราคาตลาดอ้างอิงสำหรับหุ้นใน BKV
3.หุ้นใน BKV จะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นภายหลังการเข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchange ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ ในการขาย หรือนำหุ้นใน BKV ที่บริษัทฯ ถือไปชำระเป็นค่าตอบแทนในการซื้อหรือควบรวมกิจการอื่นใดของบริษัทฯ ในอนาคต
4.การดำเนินการตามแผนการทำ IPO เป็นการสร้างเกียรติภูมิและชื่อเสียงที่ดีให้แก่บริษัทฯ ในฐานะที่เป็นบริษัทไทยที่มีบริษัทย่อยเป็นบริษัทจดทะเบียนใน New York Stock Exchange อีกทั้งยังเป็นการสร้างชื่อเสียงที่ดีให้แก่ BKV ด้วย