อ่วม! “อภิมุข-พวก” ส่อโดนคดีฉ้อโกงหุ้น MORE “ปปง.” สั่งอายัด 5.3 พันล้าน
“อภิมุข บำรุงวงษ์-พวก” ส่อโดนคดีฉ้อโกงหุ้น MORE “ปปง.” สั่งอายัดทรัพย์เกี่ยวข้อง 34 รายการ 5.3 พันลบ. “สอบสวนกลาง” ชี้เข้าข่ายผิดหลักซื้อขายทรัพย์ สั่ง ก.ล.ต. เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร ผกก. 3 บก.ปอศ. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. บก.ป. บก.ปอท. ร่วมประชุมหารือแนวทางการสืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หลังพบความผิดปกติที่ส่อเข้าข่ายผิดหลักการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา
สำหรับการประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการวางกรอบแนวทางการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงทั้งหมด และมีผู้ใดกระทำความผิดบ้าง โดยได้มีการประสานข้อมูลทำงานร่วมกับทาง ปปง. และ ก.ล.ต. เนื่องจากคดีมีรายละเอียดค่อนข้างซับซ้อน ทั้งนี้ขอยืนยันจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ล่าสุด นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า ปปง. ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ของนายอภิมุข บำรุงวงษ์ กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จำนวน 34 รายการ ซึ่งเป็นเงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE-R รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 5,300 ล้านบาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน คือ นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566
โดยสำนักงาน ปปง. จะมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีดังกล่าว รวมทั้งรายคดีอื่น โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด
ขณะเดียวกัน ถ้าปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สำนักงาน ปปง. ก็จะพิจารณาดำเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย