TNP กวาดรายได้ 9 เดือนเฉียด 2 พันลบ. เร่งขยายสาขาครอบคลุมทุกช่องทาง
TNP กวาดรายได้ 9 เดือนแรกเฉียด 2 พันลบ. เร่งขยายสาขาครอบคลุมภาคเหนือตอนบน ส่งซิก Q4/65 แจ่ม รับไฮซีซั่น-นักท่องเที่ยวทะลัก กระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามกลยุทธ์หลักที่บริษัทได้วางไว้ ในการเดินหน้าขยายสาขาให้ครอบคลุมการให้บริการในทุกพื้นที่ ของโซนภาคเหนือตอนบน เพื่อเพิ่มโอกาสทางด้านรายได้จากการขายหน้าร้านสาขา อีกทั้งการขยายสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น สอดรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/65 มีรายได้จากการขายจำนวน 621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.85 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 7.78% ด้านกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 104.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของ ปีก่อน 5.15 ล้านบาท คิดเป็น 5.17 % โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 16.8 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 37.06 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 65 อยู่ที่ 1,788.30 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 107.09 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 17.10 ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจาก กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับการลดมาตรการกระตุ้นค่าใช้จ่ายของประชาชนจากมาตรการของภาครัฐ ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้บริโภคในปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 อย่างไรก็ตามรายได้จากการขายส่วนหนึ่งของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจ
โดยในปัจจุบัน ธนพิริยะ มีสาขาครอบคลุมภาคเหนือตอนบนทั้งหมด 40 สาขา ประกอบด้วย จ.เชียงราย 31 สาขา จ.เชียงใหม่ 3 สาขา จ.พะเยา 6 สาขา และมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มเติมอีกภายในสิ้นปี 2565 ตอกย้ำการเป็นค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจากการกระจายรากฐานของร้านค้าให้เข้าถึงทุกพื้นที่
อย่างไรก็ดีในโค้งสุดท้ายของปี ธนพิริยะก็ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าตามแผนในการเปิดสาขาให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อสร้างการเข้าถึงของผู้บริโภค รวมถึงยังศึกษาโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสเติบโตเพิ่มเติม อีกทั้งยังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของภาคเหนือ เป็นช่วงพีคของปีที่นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายในแต่ละสาขา ให้มีกระแสเงินสดไหลเวียนที่จะสร้างโอกาสในการเติบโตของรายได้ของสาขามากยิ่งขึ้น