เทรด 7 ธ.ค.นี้! UBA มั่นใจกระแสแรง ตอบรับผู้นำ “บำบัดน้ำเสีย” รายแรกตลาดทุน

UBA ปักธงเทรด mai วันที่ 7 ธ.ค.นี้ ชูศักยภาพผู้นำธุรกิจ “บำบัดน้ำเสีย” ประสบการณ์ 20 ปี ลุยนำเงินระดมทุนเสริมแกร่งธุรกิจ เดินหน้าประมูลงานใหม่ หนุนผลงานโตแกร่ง


นายสมชาติ สังหิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ UBA เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.70 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นสำหรับผู้ถือหุ้นเดิมของ UBA ตามสัดส่วนการถือหุ้นใน UBA (Pre-emptive Rights) ระหว่างวันที่ 23 – 25 พ.ย.65 และประชาชนทั่วไป วันที่ 28 – 30 พ.ย.65 บริษัทมีความพร้อมเข้าจดทะเบียน และซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ และเป็นบริษัทแรกในธุรกิจนี้ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ

โดยการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้ไปใช้ในการลงทุนพัฒนาระบบสารสนเทศ (Information System) ใช้ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ รวมทั้งเพื่อซื้อและปรับปรุงเครื่องจักรที่ใช้สนับสนุนการดำเนินงาน และชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัทฯ

รวมถึงโอกาสในการรับงานมากขึ้น ภายใต้จุดแข็งของ UBA ทั้งความได้เปรียบของการบริหารการจัดการแบบครบวงจร ทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด  มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในธุรกิจนี้มา 21 ปี และการครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของงานระบบบำบัดน้ำเสียตลอดจนมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอุโมงค์ระบายน้ำของ กทม.

“UBA มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจากแผนงานจะทำให้ UBA เติบโตโดดเด่นในอนาคต โดยนอกจากจะเป็นหุ้นปันผลดีแล้วนั้น ยังเป็นหุ้นเติบโตที่ดีอีกด้วย” นายสมชาติ กล่าว

สำหรับ UBA ประกอบธุรกิจในการให้บริการจัดการน้ำ เดินระบบ และบำรุงรักษาแบบครบวงจร (Integrated Operation and Maintenance หรือ IOM) พร้อมทั้งการบริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ก่อสร้าง และติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า โดยครอบคลุมการให้บริการใน 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ งานระบบบำบัดน้ำเสีย อุโมงค์ระบายน้ำ และระบบน้ำประปา

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ มาจากรัฐ 80% ส่วนภาคเอกชน 20% ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการโครงการให้กับกรุงเทพมหานครมาต่อเนื่องแล้ว จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,000 ล้านบาท และปัจจุบันบริษัทฯ มีงานอยู่ระหว่างการดำเนินการ (Backlog) ณ ไตรมาส 2 ปี 65 มูลค่ารวมกว่า 1,616 ล้านบาท ซึ่งคาดจะทยอยรับรู้รายได้ตลอด 2-3 ปีต่อจากนี้

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 62 ถึง 64 และงวดเก้าเดือนแรกปี 65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 432.40 ล้านบาท 532.69 ล้านบาท 533.59 ล้านบาท และ 553.50 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วงปี 2562 ถึง 2564 และงวดเก้าเดือนแรกปี 2565 เท่ากับ 18.30 ล้านบาท 43.43 ล้านบาท 52.35 ล้านบาท และ 50.82 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 4.23%, 8.16%, 9.82% และ 9.53% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน นางนภัสวรรณ วัฒนศิริชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี UBA เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะนิวไฮต่อ เนื่องจากรายได้และกำไรเติบโตโดดเด่น ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดรายได้รวมจะทำได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ด้วยมีปัจจัยบวกเฉพาะ อีกทั้งมีแบ็กล็อกอย่างหนาแน่น อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ตั้งเป้ารักษา D/E ให้ไม่เกิน 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.96 เท่า โดยภายหลังจากการระดมทุน D/E จะต่ำลงอีก

Back to top button