เฟ้น 5 หุ้นครึ่งปีหลัง “รายได้-กำไร” โตเด่น ชู BBIK อัพไซด์เฉียด 30 %
คัด 5 หุ้นเด่น BBIK-D-JMT-SHR-SNNP โบรกชี้กำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 65 เป็นผลมาจากรายได้และกำไรสูงขึ้น รวมถึงอัพไซด์ระดับสูงต่อราคาเป้าหมาย ชู BBIK อัพไซด์ 29.76%
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลังจากทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ออกมาครบแล้ว ทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นที่คาดว่าจะมีกำไรโมเมนตัมอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 และอัพไซด์ระดับสูงต่อราคาเป้าหมาย
สะท้อนจากข้อมูลนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายวิเคราะห์ลดเป้าหมาย SET Index ของเราเป็น 1,700 จุด จาก 1,740 จุด หลังเพิ่มอัตราตอบแทนพันธบัตรไทย 10 ปี เป็น 3.3% จาก 2.9% และปรับ EPS เป็นกลางปี 2566 ที่ 114
โดยมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยจากการเติบโตที่ดีขึ้น และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลงในปี 2566 ซึ่งคาดจะดึงดูดกระแสเงินไหลเข้ามากขึ้น คาดว่าทุกบริษัทจะรายงานกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นแข็งแกร่งช่วงครึ่งปีหลังในไตรมาส 4/2565 มีมุมมองบวกต่อ 5 หุ้น คือ BBIK, D, JMT, SHR, SNNP
สำหรับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ระบุว่า เข้าสู่ธุรกิจความปลอดภัยด้านไซเบอร์ BBIK ประกาศว่าบริษัทฯ ก่อตั้งบริษัท บลูบิก ไททันส์ จำกัด เพื่อให้บริการที่ปรึกษาและโซลูชั่นด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์ คาดว่ารายได้จากธุรกิจใหม่นี้จะอยู่ที่ 100-600 ล้านบาท ในปี 2566
โดยประเมินกำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565-2567 ด้วยอัตราการเติบโตรายปีแบบผสม (CAGR) ที่ 68% ได้ผลเชิงบวกตามหนุน Growth และกลุ่มเทคโนโลยีต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐที่ขนแรงเมื่อคืน หลังจากเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาดและผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
อีกทั้งคาดว่าบริษัทจะรายงานกําไรสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกรงในไตรมาส 4/2565 และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มรายได้ปี 2565 จากยอดแบ็กล็อกที่แข็งแกร่ง มูลค่าหุ้นอิงด้วยวิธี PER ใช้ PER ที่ 45.25 เท่า โดยยังคงแนะนำราคาเป้าหมาย 140.80 บาท อัพไซด์ 29.76% (คำนวณจากราคาปิด 108.50 บาท ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565)
ขณะที่ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ระบุว่า ปัจจัยหนุนตัวคูณมูลค่าหุ้นคาดจะมาจากการเปิดประเทศจีน การขึ้นค่าบริการ และ Utilization ของ BIDH ที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาดซึ่งจะช่วยลดสัดส่วนต้นทุนคงที่ต่อรายได้ โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 8.75 บาท อัพไซด์ 57.65% (คำนวณจากราคาปิด 5.55 บาท ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565)
ด้าน บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2565 จะทำนิวไฮ อีกทั้งประเมินกําไรครึ่งหลังของปี 2565 จะปรับตัวขึ้นจากครึ่งแรกของปี 2565 จากการเก็บเงินสดเพิ่มขึ้นและการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นจากพอร์ตตัดจำหน่ายที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ระบบนิเวศของ J Group จะช่วยสนับสนุนโมเดลธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ NPL ที่มีหลักประกันของ JMT จะถูกบริหารโดย 1) เครือข่ายเรียกเก็บเงินของบริษัท 2) การรีไฟแนนซ์ผ่าน KBJ Capital ของลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี 3) ขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นหลักประกันผ่าน JAS Asset เชื่อว่าการเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจครั้งนี้จะช่วยสร้างโอกาสให้กับ JMT ในอีก 3-5 ปีข้างหน้าเมื่อมี NPL จากธนาคารพาณิชย์ถูกปล่อยออกมามากขึ้นในตลาด โดยยังคงราคาเป้าหมาย 73.30 บาท อัพไซด์ 11.48% (คำนวณจากราคาปิด 65.75 บาท ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565)
ส่วน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR คาดการณ์แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 จะสูงขึ้น หลังภายในประเทศฟื้นตัวขึ้น จากการยกเลิกระบบ Thailand Pass ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวขาเข้าในไตรมาส อีกทั้ง จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในประเทศและช่วงไฮซีซั่นในมัลดีฟส์ รวมถึงคาดว่าจะเห็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไร โดยยังคงแนะนำราคาเป้าหมาย 4.66 บาท อัพไซด์ 15.92% (คำนวณจากราคาปิด 4.02 บาท ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565)
นอกจากนี้ยังมี บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ระบุว่า คาดการณ์แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 จะอยู่ที่ 148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 4.2% จากไตรมาสก่อนหน้า และจากการแข่งขันฟุตบอลโลกและช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึงคาดว่าจะมี upside risk ต่อประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 โดยยังคงมุมมองบวกต่อ SNNP จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งใน 2-3 ปีข้างหน้า และกระแสเงินสดภายในที่เพียงพอจากการหมุนเวียนของสินทรัพย์สูงเพื่อชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนด รวมถึง Valuation ที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยยังคงราคาเป้าหมาย 29.30 บาท อัพไซด์ 47.23% (คำนวณจากราคาปิด ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565)