เปิดบริการแล้ววันนี้! รถเมล์ EV สาย 515 เส้นทาง ศาลายา-อนุสาวรีย์ชัยฯ
เปิดบริการวันนี้! รถเมล์ไฟฟ้าสาย 515 ศาลายา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เชื่อมการเดินทางทิศใต้สู่ใจกลางกรุง “ศักดิ์สยาม” เผยมีรถเมล์ไฟฟ้าให้บริการแล้ว 612 คัน ตั้งเป้าทั้งปี 65 แตะ 1,250 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(24 พ.ย. 65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีทดลองเปิดให้บริการ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 515 (4-61) ศาลายา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่า จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะ ในการให้บริการประชาชน ส่งเสริมให้มีการใช้รถเมล์ไฟฟ้า (EV) กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามนโยบายสนับสนุนให้เกิดกระแสการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ทั้งนี้โดยได้ดำเนินการจ้างเหมาบริการรถโดยสาร ปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (รถไฟฟ้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเดินรถ และลดมลพิษ ในเขตเมือง เพื่อให้การบริการประชาชนมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีนโยบายสนับสนุน ให้ประชาชนหันมาใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในประเด็นด้านอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต และเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) รวมทั้งแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อันเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่
สำหรับการเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 515 (4-61) ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันนี้เป็นการเปิดเดินรถครั้งที่ 4 ซึ่งในการเปิดการเดินรถแต่ละครั้งเป็นเสมือนการเก็บเกี่ยวความสำเร็จระหว่างการเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง โดยจุดหมายปลายทางที่มองเห็น และอยากให้เป็น คือการที่พี่น้องประชาชนในเขต กทม. ปริมณฑล ลูกหลานมีระบบการขนส่งสาธารณะที่สะดวก สบาย สะอาด ปลอดภัย และประหยัด ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีการเชื่อมโยงการเดินทางอย่างเป็นโครงข่ายเดียวกันระหว่างทุกรูปแบบการขนส่ง อีกทั้งยังเป็นการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดมลภาวะ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนร่วมกันทั้งโลก
“ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 18 -19 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งมีผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 เขต อาทิ จีน สหรัฐ รัสเซีย ฝรั่งเศษ มาที่นี่ กระทรวงคมนาคม โดยความร่วมมือของกรมการขนส่งทางบก และบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ได้มีส่วนร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดบริการรถรับ-ส่ง หรือ Shuttle bus แก่ผู้เข้าร่วมการประชุมเอเปค ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมาถึง 4 เส้นทาง ซึ่งได้รับคำชื่นชมและมีคำถามว่าประเทศไทยมีอีวีบัสสาธารณะวิ่งให้บริการแล้วหรือ ซึ่งฟังแล้วผมภาคภูมิใจที่เราทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย” นายศักดิ์สยามกล่าว
นอกจากนี้จากการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ พบว่าผู้ใช้บริการไม่เพียงแสดงความชื่นชมต่อทั้งตัวรถ และมาตรฐานการให้บริการแต่ยังแสดงความชื่นชมถึงการบริการที่แสนประทับใจของบุคลากรประจำรถอีกด้วย เรายังไม่เห็นว่ามีใครไม่พอใจ ไม่อย่างนั้นคงจะเห็นในโซเชียล หรือ TIKTOK แล้ว
ดังนั้นกล่าวได้ว่ากระทรวงคมนาคม และภาคเอกชนได้ร่วมมือกันส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถโดยสารประจำทางของประเทศไทย และการเดินทางร่วมกันในวันนี้จะเป็นการเดินทางไปในเส้นทางการเดินรถสาย 515 (4-61) ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
อย่างไรก็ตามโดยเส้นทางนี้ถือได้ว่าเป็นการเปิดการเชื่อมโยงพื้นที่ปริมณฑลด้านใต้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพื้นที่สำคัญมีประวัติศาสตร์ ความเป็นมาที่ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ มีมหาวิทยาลัยที่สำคัญของประเทศตั้งอยู่กับใจกลางเมืองกรุงเทพฯ โดยจะสามารถเชื่อมต่อกับการขนส่งระบบราง หรือรถไฟฟ้าสายสีเขียว ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้สะดวกสบายมากขึ้น
สถานะปัจจุบันของการบรรจุรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า ณ วันที่ 22 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 612 คัน แบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้
ปี 2562 (ใบอนุญาตฯ เอกชน 53 เส้นทาง) บรรจุ EV 8 เส้นทาง จำนวนรถ 213 คัน
ปี 2565 (ใบอนุญาตฯ เอกชน 77 เส้นทาง) บรรจุ EV 45 เส้นทาง จำนวนรถ 489 คัน เดินรถจริง 35 เส้นทาง (อีก 10 เส้นทาง อยู่ระหว่างการทดสอบการเดินรถ)
ส่วนเป้าหมายทั้งปี 2565 ไทยสมายล์บัส ยืนยันว่าจะสามารถบรรจุรถ EV บัส เข้ามาให้บริการผู้โดยสารได้ทั้งจำนวน 1,250 คัน พร้อมกันนี้ตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะเปลี่ยนการให้บริการเป็นรถ EV บัสทั้งหมด โดย 5,000 คันจะวิ่งให้บริการในช่วงเวลาปกติ ส่วนช่วงชั่วโมงเร่งด่วนจะมีรถให้บริการ 8,000 คัน
ทั้งนี้ซึ่งต้องขอแสดงความชื่นชมบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการคนไทย ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการให้บริการด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า อันจะเป็นพลังสำคัญของประเทศไทยในการสร้างสรรค์ และพัฒนาบริการที่ดีให้แก่ประชาชน ขอให้รักษาคุณภาพ มาตรฐานการบริการ เป็นต้นแบบการพัฒนารถโดยสารประจำทาง เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมพร้อมจะให้ความร่วมมือ และร่วมกันทำงานกับภาคเอกชน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป