DMT ปักหมุดปี 65 รายได้ค่าผ่านทาง 1.9 พันลบ. โดดชิงทางด่วน “กะทู้-ป่าตอง”

DMT ตั้งเป้าปี 65 รายได้ค่าผ่านทาง 1.9 พันลบ. หลังคนเดินทางเพิ่มขึ้น พร้อมเข้าร่วมประมูลงานทางพิเศษ “กะทู้-ป่าตอง” มูลค่า 1.4 หมื่นลบ. คาด “กทพ.” เปิดขายซองประมูลช่วงพ.ย.-ต้นธ.ค.65


ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผย ข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 25 พ.ย. 65 ว่า ภาพรวมธุรกิจและผลการกำกับกิจการในปีที่ผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ระดับ 4 ดาว หรือ 89% และปีหน้าบริษัทฯ มุ่งมั่นจะทำให้ได้อยู่ในระดับ 5 ดาว ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นที่น่าสนใจแก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการทางพิเศษ สายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 4 กิโลเมตรมูลค่าประมาณ  1.4 หมื่นล้านบาท  โดยคาดว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะมีการออกประกาศเชิญชวนและจำหน่ายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ในช่วงเดือนพ.ย. ถึงต้นเดือนธ.ค.65 และให้เวลาในการจัดทำข้อเสนอ 90 วัน เพื่อยื่นข้อเสนอประมาณต้นเดือน มี.ค.ปี 66 ทั้งในเรื่องความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของบุคลากร ความแข็งแกร่งทางด้านการเงินที่มีศักยภาพ และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพของงานการบริหารทางด่วน รวมทั้งความชำนาญทางเทคโนโลยีการจัดเก็บค่าผ่านทางและความปลอดภัยที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 Km มูลค่า 39,956 ล้านบาท และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 Km มูลค่า 48,310 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดซองประมูลในปี 66

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทาง 1,280.41  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 817.59  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ  544.90  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% จากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  248.51  ล้านบาท

โดยปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ค่าผ่านทางไว้ที่ 1.9 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.25 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท  เนื่องจากประเมินแนวโน้มปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้น ผลจากปัจจัยบวกที่ภาครัฐสร้างความมั่นใจให้เกิดกิจกรรมการเดินทางที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นหลังจากภาครัฐประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และยกเลิกมาตรการทุกอย่างที่เกี่ยวกับโควิด-19 ทำให้มีการเดินทางเพิ่มขึ้น

ส่วนปริมาณการเดินทางของสนามบินดอนเมืองในปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยจะเพิ่มเป็น 10.3 ล้านคนในปี 65 และ 28.3 ล้านคนในปี 66 หลังจากรัฐบาลจีนมีแนวโน้มเริ่มเปิดประเทศผ่อนคลายการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ หากภาครัฐได้เปิดให้สายการบินระหว่างประเทศกลับมาบินเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมืองจะมีจำนวนมากขึ้น จะทำให้ปริมาณจราจรบนทางยกระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Back to top button