สแกน 4 หุ้น “อสังหา” โกยกำไร 9 เดือนโตทะลักเกิน 50%
สแกนงบ 9 เดือนหุ้นกลุ่ม "อสังหาริมทรัพย์" BRI ครองแชมป์โตสุด 134% โกยกำไรทะลุพันล้านบาท ส่วน PEACE โชว์กำไร 9 เดือนโต 110% แตะ 317 ล้านบาท
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 65 ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยพบว่ามีบริษัทที่มีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นเกิน 50% อยู่ทั้งสิ้น 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI, บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE, บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH และบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN ตามตารางด้านล่างนี้
โดย BRI รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือน มีรายได้สะสมอยู่ที่ 4,555.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 62.2 เมื่อเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการยังวางแผนรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีจึงสามารถควบคุมต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือน อยู่ที่ 1,059.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 134.2 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวมาจากการขยายตลาดสู่ทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์จากการค้าและลงทุน อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังจากเปิดประเทศ จะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้าน บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/66 ว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี โดยประเมินกำไรสุทธิปกติ 338 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 28.9% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 125.2% จากปีก่อน ตามการรับรู้ backlog รวมถึงเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการผ่อนคลาย LTV ที่จะสิ้นสุดในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 12 บาท อิง PE เฉลี่ยของกลุ่มที่ 8 เท่า โดยราคาซื้อขายปัจจุบันต่ำกว่าราคาจอง IPO ที่ 10.50 บาท มองว่าเป็นจังหวะที่ควรเข้าสะสมด้วย Upside ปัจจุบันที่สูงกว่า 26% และ Dividend yield ที่สูงกว่า 5% ตลอดปี 65-67 รวมถึงยังมี upside จากการรับรู้ share premium ในโครงการ JV ในอนาคต
ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ระบุในบทวิเคราะห์ คาดแนวโน้มไตรมาส 4/65 ฟื้นตัวจากการเร่งขายและโอนช่วงท้ายปี กำไรปกติ 9 เดือนแรกปี 65 อยู่ที่ 737 ล้านบาท (โต 63% จากปีก่อน) คิดเป็น 72% ของคาดการณ์ทั้งปี โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 คาดฟื้นตัวจากการรับรู้ Backlog ที่ยกมาจากไตรมาสก่อนหน้า และแผนเปิดโครงการใหม่เป็นไตรมาสสูงสุดของปี จำนวน 5 แห่ง มูลค่ารวม 6.4 พันล้านบาท ท่ามกลางปัจจัยฤดูกาลที่เร่งขายและโอนในช่วงท้ายปี ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นด้วยมาตรการผ่อนคลาย LTV ที่สิ้นสุดในสิ้นปีนี้
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นการขายอสังหาฯยังคาดอยู่ในกรอบ 32-33% (ถือว่าดีกว่าปี 64 ที่เฉลี่ย 31.5%) ทำให้คงประมาณการกำไรปกติปี 65 ที่ 1 พันล้านบาท (โต 71% จากปีก่อน)
ด้าน PEACE มีรายได้งวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 1,424.70 ล้านบาท เติบโต 75.98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 809.58 ล้านบาท และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 317.15 ล้านบาท เติบโต 110.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 150.75 ล้านบาท ซึ่งเป็นสร้างการเติบโตของกำไรได้สูงกว่าการเติบโตของรายได้ และยังมียอดขายสะสมประมาณ 1,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีปัจจัยหลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในทุกโครงการ โดยปัจจุบัน โครงการเฌอ งามวงศ์วาน-ประชาชื่น, โครงการเฌอ วัชรพล รวมถึงโครงการ คอร์ดิซ แอท อุดมสุข มียอดขายรวมกันมากกว่า 90% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้ง 3 โครงการได้ภายในไตรมาส 4/2565