“สุเชษฐ์” แนะเก็งกำไร 10 หุ้น “พื้นฐานดี”
“สุเชษฐ์ สุขแท้” คาดการณ์ดัชนีสัปดาห์นี้อาจฟื้นตัวจากหุ้นไอพีโอเข้าตลาด พร้อมแนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้น 10หุ้นพื้นฐานดี ได้แก่ KBANK, AIT, SAWAD, EA, BANPU, AMATA, CPN, WHA, LPN, SPALI
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (29 พ.ย. 65) ว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากหุ้น IPO ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด ทำให้ปริมาณการซื้อขายอาจจะขยับขึ้นมาได้ และทำให้ตลาดคึกคักขึ้น ในขณะเดียวกันตลาดฮ่องกงที่เปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ดัชนี SET ขึ้นไปทดสอบระดับตัวบนที่บริเวณ 1,630 จุด จึงต้องรอดูว่าวันนี้ตลาดจะยืนอยู่ในระดับดังกล่าวได้หรือไม่
โดย ASL ประเมินระดับดัชนีปรับตัวลงทดสอบฐานแนวรับ 1,611- 1,610 จุด และมีแรงซื้อกลับขึ้นมาที่แนวต้านบริเวณ 1,620 -1,621 จุด เป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นทางสัญญาณเทคนิค โดยมีแนวต้านจุดทดสอบ Double Top ที่ระดับ 1,630 จุด ทั้งนี้ คาดว่าจะมีแรงขายทำรอบหากมูลค่าการซื้อขายไม่เพิ่มขึ้น โดยแนะนำให้ “ถือ” หรือ “ซื้อ” เล่นรอบในแนวรับระดับ 1,611 – 1,600 จุด ไม่ควรต่ำกว่าระดับดังกล่าวเพื่อสร้างรูปแบบกลับตัวขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ในระดับราคา 141-143 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่งของกลุ่มธนาคาร ที่ยังยืนแข็งมาก ถือเป็นจุดที่ยังน่าสนใจ ทั้งในแง่ของปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางสัญญาณเทคนิค ซึ่งแนะนำให้เล่นรีบาวด์ขึ้นไป และขายที่ระดับราคา 155-160 บาท โดยมีสัญญาณบวกที่บ่งชี้ถึงแรงซื้อคืนเป็นการซื้อเก็งกำไร และมีโอกาสกลับขึ้นทดสอบแนวต้านตามลำดับ
ต่อมาคือ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT แนะนำ “ซื้อ” เพื่อเล่นเก็งกำไรในระยะสั้น โดยราคาหุ้นมีการย้อนกลับ เนื่องจากเป็นหุ้นเล็กที่มีลักษณะการเล่นเก็งกำไรมากกว่า สามารถขยับขึ้นไปเล่นแนวต้านตัวบนอยู่ที่ระดับ 7 บาท
นอกจากนี้ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD อยู่ในกลุ่มลีสซิ่งที่มีแนวโน้มแกว่งตัว และยังมีประเด็นที่ต้องตามไปต่อจนถึงปีหน้า แนะนำ “ซื้อ” ในระดับราคา 41-43 บาท เพื่อเก็บไว้ “ขาย” ในระดับราคา 50-55 บาท เพราะประเมินว่ายังไม่สามารถทะลุผ่านระดับราคา 55 บาท
อีกหนึ่งหุ้นที่มองว่าน่าสนใจ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เนื่องจากมีเรื่องการผลิตรถ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า และการใช้งานแบตเตอรี่ที่มีเพิ่มมากขึ้น ด้วยระดับราคาลงมาอยู่บริเวณ 93-94 บาท แนะนำให้ซื้อเก็งกำไร แล้วไป “ขาย” บริเวณที่ดับราคา 98-100 บาท
ส่วน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ถูกเก็งกำไรลงมา อยู่ที่ระดับ12.50 บาท เป็นจุดรับสำคัญได้ จากราคาถ่านหินที่มีลักษณะอ่อนตัวลง ส่วนแนวต้านสำคัญทางเทคนิค อยู่ที่ระดับราคา 14 บาท
ทั้งนี้ ยังมีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กลับมาโดดเด่นในรอบนี้ คือ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA , บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ,บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ที่มีผลการดำเนินงานออกมาค่อนข้างดี
อย่างไรก็ดีวันนี้แนะนำให้จับตา บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ที่จะมี บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เข้าตลาดในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย. 65)