“ตลท.” นัดถก “สมาคมโบรก” รับมือรัฐรีดภาษีหุ้น หวั่นต้นทุนเทรดพุ่งเท่าตัว!
“ตลท.” นัดถก “สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย” เตรียมแผนรองรับการจัดเก็บภาษีขายหุ้น เพื่อไม่ให้เกิดการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อนจากผู้ลงทุนในบางประเภทธุรกรรม ฟากโบรกชี้ทำต้นทุนเทรดพุ่งเท่าตัว หวั่นฉุดวอลุ่มซื้อขายลดลง
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเก็บภาษีจากการขายหุ้นว่า ตลท.กำลังทำงานร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเตรียมกระบวนการรองรับจัดเก็บภาษีขายหุ้นเพื่อให้มีภาระต้นทุนที่ต่ำ และมีประสิทธิภาพในการทำงานของทั้งอุตสาหกรรม
นอกจากนี้จะเตรียมข้อเสนอในรายละเอียดการจัดเก็บภาษีให้กับกระทรวงการคลัง เพื่อไม่ให้เกิดการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อนจากผู้ลงทุนในบางประเภทธุรกรรม ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งข้อมูลความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
ขณะที่นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่าหากมีการเก็บภาษีขายหุ้น (Financial Transaction Tax) ในอัตรา 0.1% จริง จะกระทบต่อปริมาณการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องด้วยค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรมอยู่ที่ 0.11% การเก็บภาษี 0.1% เพิ่มเข้ามาจะทำให้นักลงทุนมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่คาดว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 2-5 เท่าตัว และนักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นราว 60%
ด้านฝั่งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ก็ต้องดูว่าจะส่งผลกระทบแค่ไหน เนื่องด้วยหลายๆ ธุรกรรมไม่ได้มีการเก็บค่าธรรมเนียม เช่น Derivative Warrants (DW), Block trade เป็นต้น ซึ่งหากมีการเก็บภาษีขายหุ้นก็ต้องรอดูรายละเอียดว่าจะครอบคลุมในส่วนนี้หรือไม่ หากมีการเก็บทั้งหมดก็จะเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การเก็บภาษีขายหุ้นยังเป็นเพียงขั้นตอนการรับหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาฯ เท่านั้น ยังต้องผ่านขั้นตอนของกฤษฎีกา ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่งถึงจะทราบชัดเจนว่าจะเก็บอย่างไร, มีรูปแบบอย่างไร