BYD วางงบ 9.2 พันล้าน ลุยธุรกิจ “บัส-เรือไฟฟ้า” เต็มสูบ ปั้นรายได้-กำไรแกร่ง
BYD วางงบ 9,270 ล้านบาท จากเงินเพิ่มทุนรายใหม่ เดินหน้าธุรกิจการเดินรถไทยสมายล์บัส-เรือไฟฟ้า” เต็มสูบ ตั้งแต่ไตรมาส 4 เพื่อตามเป้ารถใหม่ 1,250 คันในปีนี้ หวังปั้นรายได้-กำไรโตแกร่ง
นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 โดยภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/2565 บริษัทมีรายได้27.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,654% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 88 % จากเดิมมีรายได้ 9 ล้านบาท เพิ่มเป็น 18.18 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ยังมีรายได้มาจากธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 630% จากเดิมมีรายได้ 2 ล้านบาท มาเป็น 16 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อมาคือ กำไรจากรายได้ดอกเบี้ย 927% จากเดิมมีรายได้ 2.83 ล้านบาท ขยับมาเป็น 9 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากให้บริษัทย่อยกู้ยืม ขณะเดียวกันยังมีกำไรจากผลตอบแทนเครื่องมือทางการเงิน เพิ่มขึ้น 771% จากเดิมปี 2564 ขาดทุน 1 ล้านบาท ขณะนี้พลิกมีกำไร 7.8 ล้านบาท มาจากการซื้อขายหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีธุรกรรมมากขึ้นทำให้มีกำไร
ทั้งนี้แม้ว่ากำไรในไตรมาส 3/2565 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ที่มาจากช่องทางต่างๆ ที่กล่าวมาเบื้องต้น แต่หากดูรายได้ 9 เดือนแรก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ 9 เดือนแรกปี 2565 อยู่ที่ 29.56 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 73 ล้าน สาเหตุมาจากรับส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมจำนวน 89 ล้านบาท ทำให้กำไรภาพรวมลดลงตาม แต่ยังมีข่าวดีที่ค่าใช้จ่ายต่างๆของบริษัทในไตรมาส 3/2565 ลดลง 40 % จาก 84 ล้านบาท เหลือเพียง 49 ล้านบาท มาจากการที่คดีความลดลง การตั้งสำรองลดลง รวมถึงการได้รับชำระคืนลูกหนี้
สำหรับแผนธุรกิจในไตรมาสที่ 4/2565 ในส่วนของนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะเน้นการบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบการซื้อขายให้ รวดเร็ว ทันสมัย ตอบโจทย์ นักลงทุน รวมถึงเร่งขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น ผลักดันให้ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เน้นการบริหารจัดการสภาพคล่องที่ดีขึ้น ระมัดระวังเรื่องการบริการ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ซึ่งผ่านมาก็มั่นใจว่าเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิของบริษัทมีมากกว่า 3,000 ล้านบาท กรณีประเด็นหุ้น MORE ยืนยันไม่กระทบสภาพคล่องของบริษัท นอกจากนี้ในไตรมาสที่ที่ 4/2565 ยังวางแผนจะขยายลูกค้าไปกองทุนรวม และตราสารหนี้ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทยังจะเดินหน้าธุรกิจการเดินรถไทยสมายล์บัส และจะทยอยบรรจุรถเข้ามาให้บริการเรื่อย ๆ โดยปี 2565 ตั้งเป้าใหม่ 1,250 คัน นอกจากนี้มีแผนที่จะซื้อกิจการของสมาร์ทบัสเพิ่มเสริมแกร่งธุรกิจ และจะเพิ่มรายได้ และกำไรให้บริษัทได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีแผนจะใช้เงิน 9,270 ล้านบาท ที่ได้มาจากผู้เพิ่มทุนรายใหม่ ที่เข้ามาเพิ่มทุนในไตรมาสที่ 3/2565 โดยจะนำใช้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ นำไปให้ไทยสมายล์บัสกู้ยืมลงทุนซื้อรถ ทำตั๋วร่วม ทำอู่รถ ลงทุนด้านเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงเรือไฟฟ้าด้วย คาดว่าในอนาคตจะสามารถสร้างรายได้ และกำไร ให้บริษัทได้จำนวนมาก