โบรกฟันธง FPT ปี 66 โตต่อเนื่อง รับทุกธุรกิจขยายตัว!
โบรกประสานเสียง FPT ปี 66 กำไรโตต่อเนื่อง รับทุกธุรกิจขยายตัวชัดเจน หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หนุนกำลังซื้อเพิ่มขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้า 17.20 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT รายงานผลการดำเนินงานงวดปีงบการเงิน 65 (1 ต.ค.64 – 30 ก.ย.65) มีกำไรสุทธิ 2,465 ล้านบาท เติบโต 57.3% เมื่อเทียบจากงวดปี 64 ซึ่งอยู่ที่ 1,567 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับหุ้น FPT โดยพบว่า นักวิเคราะห์ต่างมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในงวดปี 66 ของ FPT จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อ หนุนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น FPT และราคาเป้าหมายกลางปี 66 ที่ 17.20 บาท ซึ่งมองว่า FPT มีความพร้อมที่จะเดินหน้าแผนการลงทุนขนาดใหญ่ตามที่วางไว้ก่อนการระบาดของโควิด-19 นอกจากเมกะโปรเจคท์ทาวน์ชิปในย่านถนนบางนา-ตราด อาจมีการพัฒนาเพิ่มเติมในเวียดนาม ซึ่งประเมินว่ากำไรของ FPT จะเติบโตต่อเนื่องในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า
สำหรับแรงหนุนสำคัญมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงผลจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ที่ช่วยเร่งเครื่องธุรกิจอสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรมที่มีสัญญาณบวกจากนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการขยายการลงทุนจากจีน, ไต้หวัน และทวีปยุโรปเข้ามามากขึ้น และส่งผลดีกับธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอธุรกิจอสังหาฯ เพื่อพาณิชยกรรม
สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด ซึ่งระบุในทางเดียวกันว่า FPT จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากปัจจัยการเปิดประเทศ บวกกับเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้เล็งเห็นการดำเนินงานงวดปี 66 เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยฝ่ายวิจัยคาดรายได้ของ FPT อยู่ที่ 1.62 หมื่นล้านบาท และคาดกำไรปกติในปี 66 อยู่ที่ 2.19 พันล้านบาท เติบโต 13.2% เมื่อเทียบจากงวดปี 65 ซึ่งขับเคลื่อนจากการเติบโตของแต่ละกลุ่มธุรกิจ
โดยธุรกิจอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย ประเมินว่าจะมียอดโอนฯ 1.24 หมื่นล้านบาท เติบโต 8.4% เมื่อเทียบจากงวดปี 65 มียอดหนุนจาก Backlog สิ้นปี 65 ที่รอส่งมอบ 1.7 พันล้านบาท และการขายโอนฯ จากโครงการใหม่ที่จะเปิดในปี 66 จำนวน 18 โครงการ รวมมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากกลุ่มสินค้าแนวราบ ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันปีเดียวกัน รวมถึงมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติม ตั้งเป้าจับตลาดเรียลดีมานด์ด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมแบบ Low-Rise ราคา 3 – 5 ล้านบาท เพื่อรับรู้รายได้เร็ว
สำหรับ ธุรกิจอสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรม คาดรายได้ 2.16 พันล้านบาท เติบโต 18.6% เมื่อเทียบจากงวดปี 65 โดยมาจากการสร้างรายได้เต็มปีของโรงงาน/คลังสินค้าในอินโดนีเซีย รวมพื้นที่เช่า 1.5 แสนตารางเมตร และในไทยที่มีการทยอยส่งมอบพื้นที่เช่า 1.5 แสนตารางเมตรในรอบปีที่ผ่านมา โดยเตรียมขยายสินทรัพย์ในพอร์ตต่อเนื่อง ด้วยเป้าเพิ่มพื้นที่ให้เช่าภายใต้การบริหารจัดการจากปัจจุบันที่มีอยู่ 3.4 ล้านตารางเมตร สู่ 3.7 ล้านตารางเมตรในปี 67 ซึ่งธุรกิจให้เช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการย้ายฐานผลิตจากจีน รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce และโลจิสติกส์
ในส่วนธุรกิจอสังหาฯ เพื่อพาณิชยกรรม คาดรายได้ 971 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบจากงวดปี 65 โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน พอร์ตอาคารสำนักงานชั้นนำเกรด A ทั้ง FYI Center, Park Ventures Ecoplex, Sathorn Square และ Mitrtown Office Tower ยังสามารถรักษาอัตราการเช่าไว้ในระดับสูงมากกว่า 90% ส่วนโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ Silom Edge เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีผู้เช่าทยอย เซ็นสัญญาต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของ FPT สะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมในการสปริงบอร์ดธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหุ้นเด่นที่น่าจับตามอง และเหมาะกับการซื้อเก็บเข้าพอร์ตอย่างมาก