“อุตตม” เสนอขึ้นค่าแรงตาม “ประสิทธิภาพงาน” แทนกำหนดพื้นที่
หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เห็นด้วยต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ พร้อมแนะปรับขึ้นตาม “ประสิทธิภาพงาน” แทนกำหนดพื้นที่ สะท้อนตามเศรษฐกิจปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กนำเสนอแนวทางการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์การนำเสนอนโยบายการขึ้นค่าแรงของพรรคการเมืองหนึ่งอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ภายใต้ความสมดุลใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ปรับเพื่อให้แรงงานสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพสอดคล้องกับต้นทุนค่าใช้จ่ายการใช้ชีวิตในปัจจุบัน 2.ปรับขึ้นค่าแรงต้องไม่กระทบกับผู้ประกอบการ เนื่องจากวันนี้ในภาพรวมผู้ประกอบการส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเอสเอ็มอียังไม่หายบาดเจ็บจากโควิด และเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะฟื้นตัว
โดยส่วนตัวเห็นว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำบนพื้นฐานของความสมดุลต้องใช้ระบบกำหนดค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำแบบใหม่ จากเดิมที่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำตามพื้นที่ โดยพื้นที่ใดค่าครองชีพสูงก็ได้ค่าแรงสูง ค่าครองชีพต่ำก็ได้ค่าแรงต่ำ เปลี่ยนเป็นการกำหนดค่าแรงที่ยึดเอาประสิทธิภาพของแรงงานเป็นหลัก ซึ่งจะตอบโจทย์ความเป็นไปในสถานการณ์ปัจจุบัน และการพัฒนาประเทศในโลกอนาคตมากกว่า
จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปัจจุบันประชากรในวัยแรงงานของไทยมีประมาณ 38 ล้านคน แบ่งเป็นภาคบริการและการค้า 18 ล้านคน ภาคเกษตร 10 ล้านคน และภาคการผลิตอุตสาหกรรม 10 ล้านคน นับเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ จึงควรได้รับการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม และส่งเสริมให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ควรกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำโดยแบ่งตามประเภทแรงงาน แล้วยึดเอาประสิทธิภาพหรือทักษะของแรงงานเป็นตัวกำหนดอัตราค่าแรง คือ หากเป็นประเภทแรงงานเข้มข้นหรือแรงงานที่ไม่มีทักษะก็กำหนดค่าแรงอัตราหนึ่ง ที่สามารถอยู่ได้ในคุณภาพชีวิตที่ดีพอ แต่หากเป็นแรงงานที่ต้องใช้ทักษะเพิ่มก็ควรได้รับอัตราค่าแรงที่สูงกว่า
ขณะเดียวกัน ภาครัฐก็จะต้องมีมาตรการยกระดับทักษะแรงงาน เพื่อให้แรงงานขั้นพื้นฐานสามารถยกระดับขึ้นไปขั้นที่สูงกว่า ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับของประเทศสิงคโปร์ ตัวอย่างอาชีพแม่บ้านที่นั่นหากเป็นแม่บ้านทั่วไปก็จะได้ค่าแรงราคาที่ต่ำกว่าแม่บ้านที่ทำงานสถานที่บริการหรือในสถานที่ราชการ เพราะถือว่าต้องใช้ทักษะการบริการด้วย หากทำได้เช่นนี้ก็จะเป็นการสนับสนุนให้แรงงานเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดกิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ในส่วนของแรงงานในระดับมีการศึกษาสูง เช่น อนุปริญญา ปริญญาตรี ซึ่งถือเป็นกลุ่มหัวขบวนในการพัฒนาประเทศ จึงน่าจะใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างรายได้แรงงานกลุ่มนี้ ให้รองรับกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศในโลกยุคใหม่
โดยหากเรียนจบสาขาอาชีพที่ตรงกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ก็ควรได้รับค่าแรงสูงกว่าอาชีพอื่น เช่น สาขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นต้น ซึ่งก็จะเป็นการจูงใจให้มีตลาดแรงานป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนาประเทศมากขึ้น และเช่นกันภาครัฐก็ต้องมีมาตรการช่วยพัฒนาในทุกสาขาอาชีพให้มีโอกาสเพิ่มพูนทักษะและรายได้ด้วยเข่นกัน
นายอุตตม ยังคิดว่าการปรับแนวคิดวิธีกำหนดค่าแรงขั้นต่ำแบบยึดประสิทธิภาพแรงงาน นอกจากจะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อผู้ใช้แรงงานเองแล้ว ยังเป็นการช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมให้มีความเข้มแข็งขึ้นด้วย เป็นการสร้างสมดุลทั้งด้านแรงงานและผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศทั้งระบบ สิ่งที่ตนนำเสนอนี้อยู่บนฐานความคิดว่า วันนี้เราไม่ควรย่ำอยู่กับแนวทางแบบเดิมๆ