“ประยุทธ์” ปลื้มซาอุฯ มีแผนลงทุน “ท่องเที่ยว-อีอีซี” ดันเศรษฐกิจเติบโต
นายกรัฐมนตรี ยินดีนักลงทุนซาอุดิอาระเบียมีแผนร่วมลงทุนกับไทยในกลุ่มธุรกิจอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพ และในพื้นที่อีอีซี ผลลัพธ์จากนโยบายความสัมพันธ์ และการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า ซาอุดีอาระเบีย มีแผนเตรียมจะลงทุนธุรกิจในไทยด้านอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพ และในพื้นที่อีอีซี เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เกิดเงินหมุนเวียนในไทยจำนวนมาก
ทั้งนี้จากการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งการค้า การลงทุน และแรงงาน โดยในส่วนของความร่วมมือด้านการดำเนินธุรกิจระหว่างกันเห็นผลเป็นรูปธรรมจากการลงทุนของซาอุดีอาระเบียๆกับไทยจำนวนมาก
อาทิ กลุ่มธุรกิจอาหารส่งออกและแปรรูป ที่องค์การอาหารและยา ซาอุดีอาระเบีย อนุญาตให้ 11 โรงงานของไทยที่ผ่านการตรวจสอบส่งออกไก่ได้ ถัดมาคือ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ที่สายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabian Airlines) เปิดบินตรงจากกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สู่ไทย จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สร้างความตื่นตัวให้แก่ภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากเส้นทางบินสามารถเชื่อมต่อจากกรุงริยาด (Riyadh) ที่เป็นเมืองหลัก และเมืองเจดดาห์ (Jeddah) ที่เป็นเมืองรองได้
นอกจากนั้นยังมีในส่วนของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้เพิ่มสวัสดิการ ด้านสาธารณสุขให้ประชาชนมากขึ้น
สอดคล้องกับนโยบายของไทยที่อนุมัติในหลักการเพิ่มประเทศซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อการท่องเที่ยวจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน ตลอดจนนักลงทุนซาอุดีอาระเบียมีแผนลงในไทยในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ECC) เป็นจำนวนหลายโครงการ