TPIPP คลอดหุ้นกู้วงเงิน 6 พันล้าน 2 ชุด ชูดอกเบี้ย 4.60% ขาย 11-17 ม.ค.66
TPIPP เตรียมออกหุ้นกู้ 2 รุ่น วงเงิน 6 พันลบ. อายุ 3 ปี 6 เดือน และ 5 ปี ชูดอกเบี้ยสูงสุด 4.60% ชำระทุก 3 เดือน เสนอขายนักลงทุนทั่วไป-สถาบันระหว่างวันที่ 11-17 ม.ค.66 เพื่อนำเงินลุยขยายธุรกิจ-ปรับปรุงโรงไฟฟ้า
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เสนอขายหุ้นกู้บริษัท ครั้งที่ 1/2566 จำนวน 2 ชุด รวมมูลค่าที่เสนอขายทั้งสิ้นไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 จำนวนเสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 มีอายุ 3 ปี 6 เดือน และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.15 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้
โดยหุ้นกู้ชุดที่ 2 จำนวนเสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2571 มีอายุ 5 ปี และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.60 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ โดยเสนอขายในกรณีทั่วไปต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 11-13 และ 16-17 มกราคม พ.ศ. 2566
สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้สำหรับเสนอขายในกรณีทั่วไป ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน (รวมถึงผู้ลงทุนนรายใหญ่)ไได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย , บล.เอเซีย พลัส, บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) , บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.ดาโอ(ประเทศไทย) , บล.พาย, บล.เคจีไอ(ประเทศไทย), บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) , บล.ฟินันเซีย ไซรัส,บล.โกลเบล็ก, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) และ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)ส่วนผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น คือธนาคารไทยธนชาต
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ของบริษัทเพื่อปรับปรุงโรงไฟฟ้า TG7 จำนวน 1,014 ล้านบาท ภายในปี 66,ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ของบริษัทเพื่อปรับปรุงโรงไฟฟ้า TG8 จำนวน 4,026 ล้านบาทภายในปี 68, ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ของบริษัทเพื่อปรับปรุง Boilers อื่นๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จำนวน 699 ล้านบาท ภายในปี 66 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในกิจการบริษัท จำนวน 261 ล้านบาท ภายในปี 66