PTTGC ลั่นปี 66 เทิร์นอะราวด์ รับรู้ Allnex เต็มปี-โรงกลั่นเดินเครื่องเต็มกำลัง
PTTGC ตั้งเป้าปี 66 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ ขานรับยอดขายเติบโตขึ้นจากธุรกิจโรงกลั่นที่กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง รวมถึงการรับรู้ผลการดำเนินงานของ Allnex เข้ามาเต็มปี
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 66 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ (เทิร์นอะราวด์) และยอดขายเติบโตขึ้น จากธุรกิจโรงกลั่น สามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต หลังปีนี้ปิดซ่อมบำรุงไปแล้ว
รวมถึงการรับรู้ผลการดำเนินงานของ บริษัท Allnex Holding GmbH หรือ Allnex เข้ามาเต็มปี รวมถึงการดำเนินงานของสำนักงาน PTT International Trading USA Inc. หรือ PTTT USA ณ เมืองฮิวสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทำการค้าในทวีปอเมริกา โดยเฉพาะการค้าปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ยังมีการเติบโตดี ส่วนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แม้จะชะลอออกไป แต่ยังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในงวด 9 เดือนของปี 65 PTTGC รายงานขาดทุนสุทธิ 7,784 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 64 มีกำไรสุทธิ 41,735 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งในรูปแบบการซื้อกิจการ (M&A) โดยสนใจโครงการพลาสติกรีไซเคิล หรือโครงการลดคาร์บอนในสหรัฐฯ เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ด้านเงินทุนจากสหรัฐ คาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนได้ในปีหน้า ส่วนเงินลงทุนดังกล่าว คาดใช้ไม่มาก เนื่องจากจะเป็นโครงการที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ถือว่ามีความพร้อมด้านเงินทุน จากต้นทุนการเงินต่ำ และล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญากับธนาคารไทยพาณิชย์ ออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท และยังเตรียมออกหุ้นกู้ มูลค่าราว 1.3 พันล้านบาท
“ในปีหน้าเราคาดว่ายอดขายก็น่าจะเพิ่มขึ้น จาก Allnex รับรู้เต็มปี, โรงกลั่นรันเต็มที่ และยังมีโครงการร่วมทุน Kuraray GC Advanced Materials Co., Ltd. ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ รวมถึงการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องติดตามปัจจัยความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งต้องระวังอยู่” นายคงกระพัน กล่าว
สำหรับแผนการดำเนิงานงานในโครงการพลาสติกรีไซเคิลประเทศไทย ปี 66 โดย ENVICCO โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ระดับ Food Grade ซึ่งผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ (U.S. Food and Drug Administration : US FDA) แล้ว จะสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้เต็มที่มากขึ้น ราว 60-80% จากปัจจุบันมีการเดินเครื่องกำลังการผลิตอยู่ราว 40% และอยู่ระหว่างยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกใบรับรอง เพื่อให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มของไทย สามารถใช้ขวดรีไซเคิลของบริษัท สำหรับการส่งออกไปต่างประเทศ คาดว่าจะได้รับใบรับรองดังกล่าวได้ประมาณเดือนมี.ค.66
อนึ่ง ENVICCO มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสูงถึง 45,000 ตัน/ปี, เม็ดพลาสติก ชนิด rPET จำนวน 30,000 ตัน/ปี และเม็ดพลาสติก ชนิด rHDPE จำนวน 15,000 ตัน/ปี โดยช่วยลดขยะพลาสติกในประเทศไทย ได้ถึง 60,000 ตัน/ปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เทียบเท่าการปลูกป่าประมาณ 78,000 ไร่ หรือ ปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 8.32 ล้านต้น