เอาแน่ ! พิพัฒน์ ลุยชง ครม.ไฟเขียว “เปิดผับตี 4” นำร่องภูเก็ตที่แรก
ระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอ “มาตรการด้านท่องเที่ยว” รวม 3 มาตรการ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา หวังสร้างแรงส่งที่ดีแก่ภาคการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศปี 2566 แข่งขันในศึกเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (20 ธ.ค. 65) กระทรวงเตรียมนำ 3 มาตรการเข้าพิจารณา ได้แก่ มาตรการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. และขอจัดสรรงบประมาณ จำนวน 8,700 บาท แบ่งเป็น ใช้ดำเนินการโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จำนวน 5,400 ล้านบาท และใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 3,300 ล้านบาท เพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทดแทนงบบูสเตอร์ช็อตเดิมที่เคยเสนอขอไปก่อนหน้านี้ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับประชาชน
สำหรับแนวทางการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 04.00 น. หาก ครม.อนุมัติคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ทันทีในช่วงเดือนมกราคม 2566 โดยจะนำร่องที่ ถนนบางลา อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เพียงที่เดียวก่อน เพื่อประเมินผลตอบรับในระยะเริ่มต้น 6 เดือนก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะเปิดรับฟังความเห็นจากคนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการ ชาวบ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งหากดำเนินการด้วยดีก็จะเริ่มต้นที่อื่นเพิ่มเติม โดยสาเหตุที่เลือกถนนบางลาเป็นพื้นที่นำร่องเพราะสัดส่วนกว่า 70% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจากเก็บสถิติล่าสุดของจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับ พบว่า ภูเก็ต อยู่อันดับหนึ่งที่มียอดการใช้จ่ายมากสุดอยู่ที่ 127,927 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปภูเก็ตสูงมาก ประกอบกับผลวิจัยของ 3 สถาบันชี้ชัดว่าการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงจากเวลา 02.00 น.เป็น 04.00 น.จะมีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 25%
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาของสถาบันการศึกษาพบว่าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น.เป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคน หรือคิดเป็น 25% ของ 20 ล้านคนของจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2566 ดันรายได้เพิ่มขึ้นอีก 25% ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 6.25 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้มีรายกลับมา 80% ของรายได้ปี 2562 ได้ตามที่วางเป้าหมายไว้ โดยขณะนี้เรามองเห็นปัจจัยนี้เป็นปัจจัยบวกเพียงอย่างเดียวแล้ว ส่วนเครื่องมืออื่นๆ ยังไม่เห็นเลย
ส่วนกรณีกระทรวงเสนอขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อนำมาใช้กระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น นายพิพัฒน์ ระบุว่า เป็นเพราะวางแผนในการนำงบประมาณก้อนนี้ ใช้ทำการตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวแข่งกับประเทศอื่นๆ และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายปี 2566 ต้องการให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยถึงเป้าหมาย 20 ล้านคน ดึงรายได้ให้กลับมา 80% ของปี 2562