สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ธ.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ธ.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (20 ธ.ค.) โดยตลาดฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ อย่างไรดี นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายที่อ่อนแอในช่วงเทศกาลวันหยุดของผู้บริโภค และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในการประชุมเมื่อวานนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,849.74 จุด เพิ่มขึ้น 92.20 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,821.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.96 จุด หรือ +0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,547.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด หรือ +0.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (20 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ฉุดตลาดลงทั่วโลกด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตร เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 424.18 จุด ลดลง 1.69 จุด หรือ -0.40%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,450.43 จุด ลดลง 22.86 จุด หรือ -0.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,884.66 จุด ลดลง 58.21 จุด หรือ -0.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,370.62 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด หรือ +0.13%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (20 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้น หลังจากตลาดปรับตัวลงในช่วงเช้าจากความวิตกเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,370.62 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด หรือ +0.13%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (20 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และข่าวสหรัฐวางแผนซื้อน้ำมันเพื่อนำเข้าสู่คลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) อย่างไรก็ดี ตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในจีน รวมทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐที่อาจส่งผลให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนเดินทางน้อยลงในช่วงเทศกาลวันหยุด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 76.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 79.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันอังคาร (20 ธ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับสัญญาทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 27.7 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 1,825.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.072 ดอลลาร์ หรือ 4.62% ปิดที่ 24.271 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ 2.56% ปิดที่ 1,013 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 68.60 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 1,733.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (20 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.69% แตะที่ระดับ 104.0110
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 131.58 เยน จากระดับ 136.97 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9266 ฟรังก์ จากระดับ 0.9303 ฟรังก์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3610 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3666 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4374 โครนา จากระดับ 10.4031 โครนา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0617 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0603 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2162 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2142 ดอลลาร์