GULF ปิดจ๊อบโอนหุ้นวินด์ฟาร์ม “BKR2” ดึง “Keppel Group” ถือ 50%

GULF ปิดจ๊อบโอนหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ประเทศเยอรมนี Borkum Riffgrund 2 สัดส่วน 50% ให้ Keppel Group เสริมแกร่งธุรกิจ


บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ระบุว่า ตามที่ GULF ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ว่า Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100.00 ได้เข้าทำสัญญาผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Agreement) และสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) เพื่อจำหน่ายหุ้นที่ถืออยู่ใน Borkum Riffgrund 2 Investor Holding GmbH (BKR2 Holding) ให้แก่ Neptune1 InfrastructureHoldings Pte. Ltd. (Neptune1) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Keppel Infrastructure Trust และ Keppel Renewable Investments ภายใต้ Keppel Corporation Limited (Keppel Group) ในสัดส่วนร้อยละ 50.01 ด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 305 ล้านยูโร และ GIH จะดำเนินการโอนหุ้นภายหลังการดำเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาเสร็จสิ้นนั้น

ล่าสุดวันที่ 22 ธันวาคม 2565 Neptune1 และ GIH ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาข้างต้นเสร็จสิ้นแล้ว GIH จึงได้ดำเนินการโอนหุ้นของ BKR2 Holding ให้แก่ Neptune1 และได้รับชำระค่าหุ้นเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ GIH ใน BKR2 Holding ลดลงจากร้อยละ 100 เป็นร้อยละ 49.99 และสัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมของ GIH ใน Borkum Riffgrund 2 Offshore Wind Farm GmbH & Co. oHG (โครงการ BKR2) ลดลงจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 24.99

สำหรับโครงการ BKR2 นั้นเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตส่งออก 450.0 เมกะวัตต์) ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement: PPA) และสัญญาบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Agreement: O&M Agreement) กับกลุ่มบริษัท Ørsted เป็นระยะเวลา 20 ปี จากวันที่เปิดดำเนินการ

นอกจากนี้ โครงการ BKR2 ยังมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ feed-in tariff (FiT) ที่รับประกันโดยรัฐบาลประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 9.5 ปี หลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และจะได้รับค่าไฟฟ้าตาม merchant price โดยมีการรับประกันราคาขั้นต่ำ สำหรับปีที่ 9.5 ถึงปีที่ 20 จึงส่งผลให้โครงการดังกทะเล่าวมีเสถียรภาพทางรายได้ในระยะยาว

โดย KIT เป็นกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยมีมูลค่าการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและบริหารสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 4.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่ Keppel Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติชั้นนำของประเทศสิงคโปร์ ที่มีเครือข่ายลงทุนมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก กระจายการลงทุนในธุรกิจพลังงาน โทรคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ตลอดจนภาคการคมนาคมขนส่ง โดดเด่นเรื่องการทำดาต้าเซ็นเตอร์ การพัฒนาเมืองแบบสมาร์ทซิตี้

Back to top button