DUSIT มองงบ Q4 สดใสรับท่องเที่ยวฟื้น ดันยอดเข้าพักเพิ่ม
DUSIT แย้มไตรมาส 4 พีกสุดปีนี้ รับการท่องเที่ยวคึกคัก หนุนอัตราการเข้าพักปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลักดันผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นายสุกิจ งามสง่าพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า แนวโน้มในไตรมาส 4/65 ถือว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ จากการที่การท่องเที่ยวในประเทศมีความคึกคัก จากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้อัตราการเข้าพัก (OCC) ในช่วงไตรมาส 4/65 มีการปรับตัวขึ้นไปสูงขึ้นจากไตรมาส 3/65 ที่ 62% ส่งผลบวกต่อภาพรวมของธุรกิจของบริษัทในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 65
ขณะเดียวกันอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อ (ADR) ในไตรมาส 4/65 ได้มีการปรับสูงขึ้นจากไตรมาส 3/65 ที่ 3,057 บาท/ห้อง/คืน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามฤดูการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนต่อรายได้ของบริษัทจากธุรกิจโรงแรมที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาห้องพัก
ส่วนโรงแรมในต่างประเทศของบริษัทนั้นถือว่ายังสามารถกลับมาสร้างผลการดำเนินงานได้ดี และมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโรงแรมในประเทศจีนมีสัญญาณบวกที่ดีขึ้น หลังจากที่จีนได้เริ่มผ่อนคลายการควบคุมโควิด-19 แต่จะเห็นการฟื้นตัวของโรงแรมในจีนกลับมาในปี 66 เป็นต้นไป หลังจากล่าสุดจีนเตรียกยกเลิกการกักตัวในช่วงเดือน ม.ค. 66 ส่งสัญญาณเปิดประเทศ และรายได้จากการเข้าพักเฉลี่ย (RevPar) ในไตรมาส 4/65 ยังมีทิศทางสูงขึ้นและมีโอกาสกลับมาแตะระดับ 2,000 บาท/ห้อง/คืน ได้ จากไตรมาส 3/65 ที่ 1,885 บาท/ห้อง/คืน
ด้านธุรกิจอาหารของบริษัทยังมีการเติบโตที่ดีมาต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจ B2B ที่บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในการรับจ้างผลิตอาหารให้แก่ภาคธุรกิจต่างๆ และงาน Catering ซึ่งมีการฟื้นตัวอย่างมาก จากที่มีการจัดงานสัมนาและประชุมต่างๆเป็นจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร Savor eats และร้านเบเกอร์รี่ bonjour ที่บริษัทเพิ่งเข้าลงทุน ยังสามารถทำยอดขายที่ดี
โดยบริษัทตั้งเป้าธุรกิจอาหารจะมีรายได้แตะ 2.5 พันล้านบาทภายในปี 70 โดยมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นไปเป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ในเพียงตัวเลขหลักเดียว ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเข้ามาต่อยอดการเติบโต ควบคู่ไปกับการพัฒนาโรงเรียนสอนทำอาหารของบริษัท ที่จะมีการขยายฐานผู้เรียนใหม่ๆออกไปมากขึ้น ตามโรงเรียนนานาชาติ
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ในการพัฒนาคอนโดมิเนียม Luxury บนที่ดินของโรงแรมดุสิตธานี หัวมุมถนนสีลม ปัจจุบันยังคงมีการขายอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนนำโครงการไปโรดโชว์ที่ต่างประเทศ อาทิ ประเทศแถบตะวันออกกลาง ฮ่องกง สิงคโปร์ และการร่วมมือกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พัฒนาโครงคอนโดมิเนียม THE HAMPTON SUITE ศรีราชา ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และเหลือเพียงไม่กี่ยูนิตที่เหลือขาย