“กรมศุลฯ” ยึดเนื้อสุกรลอบเข้าประเทศ 1,142 กก. มูลค่ากว่าแสนบาท
“กรมศุลกากร” ยึดเนื้อสุกรลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา น้ำหนัก 1,142 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 แสนบาท
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทยกรมศุลกากรจึงให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่าง ๆ เข้มงวดในการตรวจค้นจุดที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรเข้ามาในประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ASF ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค พร้อมปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในวันนี้ (26 ธ.ค.65) กรมศุลกากรได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำเอาเนื้อสุกรที่ชำแหละแล้วจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศทางตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาในพื้นที่บ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารพรานที่ 13 และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ จังหวัดสระแก้ว นำกำลังไปทำการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบชายชาวกัมพูชา 2 คน ขณะลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งบรรจุกระสอบและทยอยนำเก็บในโกดังร้าง เจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านศุลกากรอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้แสดงตน เพื่อขอตรวจค้น พบเนื้อสุกรแช่แข็ง ประมาณ 1,142 กิโลกรัม รวมมูลค่า 137,040 บาท ไม่ผ่านพิธีการทางด่านศุลกากร
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสอบถามข้อมูล ทราบว่า ชายดังกล่าวได้รับการว่าจ้างให้ขนเนื้อสุกรข้ามจากชายแดนกัมพูชามาฝั่งไทย โดยนำมาวางไว้บริเวณริมหนองน้ำติดชายแดนกัมพูชา และทยอยนำมาเก็บไว้ในโกดังร้าง การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และของกลางดังกล่าวเป็นซากสัตว์ ผู้ใดนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พนักงานศุลกากรจึงใช้อำนาจตามมาตรา 166 มาตรา 167 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านโฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า จากสถิติการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 14 คดี รวม 174,832 กิโลกรัม มูลค่า 35,584,340 บาท ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะส่งมอบเนื้อสุกรแช่แข็งให้กรมปศุสัตว์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป