ส่อง 5 หุ้น กำไร Q4 โตต่อเนื่อง

ใกล้ถึงวันปิดงบงวดไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ของหลายโบรกเกอร์ ทั้งนี้จึงขอยกบทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ที่ได้มีการประเมินต่อผลประกอบการบริษัทต่างๆ อาทิ CPANEL, KTC, TACC, DTCENT และ THANI

โดยประเมิน บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ว่า คาดรายได้ไตรมาส 4/65 จะอยู่ที่ 124 ล้านบาท เติบโต 2.50% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบปริมาณขายช่วงไตรมาส 3/65 โดยมีสัดส่วนการขายแผ่นผนังและแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปเป็นสำคัญ ทั้งนี้มองอัตรากำไรขั้นต้น 43.30% สูงขึ้นจากไตรมาส 3/65 ที่อยู่ที่ 42.60% เนื่องจากผลของการประหยัดจากขนาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังสามารถควบคุมได้ดีใกล้เคียงเดิม ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิอยู่ที่ 26 ล้านบาท เติบโต 5.80% จากไตรมาสก่อน เติบโต 122.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC คาดจะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 อยู่ที่ราว 1.70-1.80 พันล้านบาท ขยายตัวทั้งจากไตรมาสก่อน และจากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และเป็นช่วงเข้าสู่ high season ของธุรกิจตามปริมาณการใช้บัตรเครดิตที่มากขึ้น ขณะที่สินเชื่อ “พี่เบิ้ม” ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ด้านคุณภาพลูกหนี้ยังแข็งแกร่ง คาด NPLs ratio สิ้นปีอยู่ที่ 2% และมี NPL coverage ที่สูง ส่วน write-off ที่ลดลงจากไตรมาสก่อนจะช่วยลดแรงกดดันใน credit cost โดยประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 7.20 พันล้านบาท ขยายตัว 24.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ประมาณการรายได้ไตรมาส 4/65 จะอยู่ที่ 404 ล้านบาท เติบโต 5.80% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลของ seasonal การกลับมาเปิดเทอมของนักเรียน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายสาขาของ 7-Eleven ทั้งในประเทศ และการขยายไปในตลาดต่างประเทศ อย่างกัมพูชา และมาเลเซีย ด้านอัตรากำไรขั้นต้นที่เริ่มลดลงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มปรับตัวลงแล้ว ส่งผลให้ไตรมาส 4/65 คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 64 ล้านบาท เติบโต 2.80% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 10.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCENT คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 34 ล้านบาท เติบโต 132.70% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 62% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้จากการขายและให้บริการ GPS Tracking และ MDVR ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้บริการระบบ MDVR ที่บริษัทพัฒนาเป็นระบบใหม่ที่สามารถบันทึกข้อมูลในรูปแบบภาพและเสียงเพิ่มเติมจากรุ่นเก่าทำให้ต้องใช้พื้นที่ความจำและอินเทอร์เน็ตสำหรับส่งข้อมูลมากขึ้น จึงสามารถเรียกเก็บค่าบริการได้สูงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐาน ขณะที่ไตรมาสนี้จะมีการรับรู้รายได้จากงานโครงการ IoT solution และระบบซอฟต์แวร์เข้ามาหนุนให้รายได้รวมเติบโตกว่า 50.80% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 51.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ด้าน GPM ปรับตัวขึ้นคาดอยู่ที่ระดับ 48.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/65 ที่ระดับ 47.6% ตามการรับรู้กลุ่มรายได้ที่มาร์จิ้นสูงอย่าง MDVR มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการ IPO บางส่วน ทำให้สัดส่วน cost to income ยังสูงกว่าระดับปกติส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีรายงานกำไรสุทธิ 86.80 ล้านบาท ขยายตัว 12.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 479.50 ล้านบาท เติบโต 6% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 5.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ได้แรงหนุนจากสินเชื่อรถบรรทุกที่ขยายตัวต่อเนื่องและเป็นพอร์ทหลัก (คิดเป็นสัดส่วนราว 69-70%) หลังได้รับผลกระทบจากช่วงไตรมาส 3/65 ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมและลากยาวมาถึง ต.ค. บางส่วน ทำให้การขนส่งสินค้าเกษตรหยุดชะงัก แต่ทั้งนี้ยังพอมีโมเมนตัมบวกจากภาคการค้าชายแดน และอุปโภค-บริโภค

นอกจากนี้สินเชื่อรถหรูยังเติบโตได้ แต่ยังมีข้อจำกัดจาก dealer นำเข้าได้น้อย แต่ดีมานด์ยังมีอยู่มาก ขณะที่ C/I ยังอยู่ที่ระดับ 20% เนื่องจากจะยังใช้วิธีทวงนี้แบบยึดรถเป็นหลักทำให้ต้องมีค่าใช่จ่ายพนักงานส่วนนี้อยู่ ด้านการตั้งสำรองจะกลับมาที่ระดับ 100 ล้านบาท จากไตรมาส 3/65 ที่ระดับ 122 ล้านบาท คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น ทั้งนี้คาดกำไรสุทธิทั้งปีจะอยู่ที่ 1.88 พันล้านบาท เติบโต 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน