สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า ตัวเลขว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจทำให้ตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,220.80 จุด พุ่งขึ้น 345.09 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,849.28 จุด เพิ่มขึ้น 66.06 จุด หรือ +1.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,478.09 จุด เพิ่มขึ้น 264.80 จุด หรือ +2.59%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น หลังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นขานรับข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 430.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด หรือ +0.68%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,573.47 จุด เพิ่มขึ้น 62.98 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,071.72 จุด เพิ่มขึ้น 146.12 จุด หรือ +1.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,512.72 จุด เพิ่มขึ้น 15.53 จุด หรือ +0.21%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากการเปิดเผยข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,512.72 จุด เพิ่มขึ้น 15.53 จุด หรือ +0.21%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ที่อาจชะลอตัวลง  หลังจากหลายประเทศซึ่งรวมถึงสหรัฐและญี่ปุ่น ออกมาตรการเข้มงวดในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผู้ที่เดินทางมาจากจีน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากในประเทศ

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 78.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 82.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,826 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 1.72% ปิดที่ 24.25 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 44.8 ดอลลาร์ หรือ 4.39% ปิดที่ 1,065 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 31.40 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1816.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.59% แตะที่ 103.8610

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.96 เยน จากระดับ 134.38 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9220 ฟรังก์ จากระดับ 0.9287 ฟรังก์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3539 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3599 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4446 โครนา จากระดับ 10.4682 โครนา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0676 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0615 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2068 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2027 ดอลลาร์

Back to top button