IMF มองเศรษฐกิจโลกปี 66 ถดถอย GDP โตต่ำกว่า 2%

IMF เตือนเศรษฐกิจโลกเผชิญกับปีที่ยากลำบาก คาด 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ตัวเลข GDP โลกจะเติบโตน้อยกว่า 2%


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่าเศรษฐกิจโลกเผชิญกับปีที่ยากลำบาก รุนแรงกว่าปี 2565 โดยคาดว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากสามประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ได้แก่ สหรัฐ สหภาพยุโรป และจีน ต่างชะลอตัวลงพร้อมๆ กัน

ทั้งนี้ IMF เคยเตือนเมื่อเดือนต.ค.65 ว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะหดตัว และมีโอกาส 25% ที่ GDP โลกจะเติบโตน้อยกว่า 2% ในปี 66 ซึ่งถือเป็นภาวะถดถอยทั่วโลก และจากการตรวจสอบสามประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดใน CBS Georgieva วาดภาพผสมของความสามารถในการต้านทานภาวะตกต่ำ ในขณะที่สหรัฐอาจหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย สหภาพยุโรปได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามในยูเครน ครึ่งหนึ่งของสหภาพยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า ขณะเดียวกัน จีนก็เผชิญกับปีที่ยากลำบาก

นอกจากนี้ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์แสดงให้เห็นว่าการกลับอย่างกะทันหันของจีนต่อนโยบาย Covid Zero ผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค. ให้ดำเนินไปอย่างช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 63 เนื่องจากไวรัสแพร่กระจายไปทั่วเมืองใหญ่และกระตุ้นให้ผู้คนต้องอยู่บ้านและปิดกิจการ

“การชะลอตัวของประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดมีแนวโน้มเชิงลบทั่วโลก เมื่อเรามองไปที่ตลาดเกิดใหม่ในประเทศกำลังพัฒนา ภาพจะเลวร้ายยิ่งกว่า” จอร์จีวา กล่าว

ด้านผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับภาคการผลิตที่เผยแพร่ในวันจันทร์แสดงให้เห็นการอ่านเชิงลบทั่วยุโรป ตุรกี และในเกาหลีใต้ ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารคาดว่าจะเปิดเผยตัวเลขในทำนองเดียวกันสำหรับมาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐอเมริกา ถึงกระนั้นแนวโน้มของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาจได้รับการผ่อนปรน

Back to top button