คนลงทะเบียน “บัตรคนจน” รอลุ้น! “คลัง” เตรียมประกาศผล ม.ค.นี้
กระทรวงการคลังออกมาเปิดเผยข่าวดี ว่าภายในเดือนมกราคมนี้จะมีการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ลงทะเบียนรับเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 โดยพบว่ามีจำนวนถึง 19 ล้านคน
เมื่อวันที่ 3 มกราคาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงการคลังได้ประกาศผล “สถานะการลงทะเบียน” ของการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 รอบสุดท้ายไปแล้วนั้น พบว่ายอดผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลและมีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ที่ประกาศไป 3 รอบ มีจำนวน 19,647,241 ราย จากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 22,295,183 ราย
โดยภายในเดือน ม.ค.นี้ จะมีการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติให้ทราบ หลังจากที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ส่งข้อมูลไปตรวจสอบคุณสมบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล แต่การตรวจสอบคุณสมบัติจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
สำหรับขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามเกณฑ์ครอบครัวจะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการ
ทั้งมีข้อมูลจาก กรมบัญชีกลาง พบว่าจะโอนเงินเข้าให้กับผู้ถือบัตร “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ บัตรคนจน คือทุกวันที่ 1 , 18 และ 22 ของเดือน โดยสามารถถอนเป็นเงินสดได้และสะสมในเดือนถัดไปได้ในวันที่มีเงินเข้าวันที่ 18 และ 22 ของเดือน
สำหรับไทม์ไลน์ บัตรคนจน ประจำเดือนมกราคม 2566 รายละเอียดระบุไว้ดังนี้
วันที่ 1 มกราคม 2566 (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
1.ผู้มีบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากเดิมได้รับวงเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน จะได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 400 บาทต่อคนต่อเดือน
2.ผู้มีบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากเดิมได้รับวงเงิน 300 บาทต่อคนต่อเดือน จะได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 500 บาทต่อคนต่อเดือน
3.ค่าก๊าซหุงต้มจำนวน 100 บาท (ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2565)
4.ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อเดือน รถไฟฟ้า (MRT+BTS+ARL) / ขสมก. 500 บาทต่อเดือน
วันที่ 18 มกราคม 2566 (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
1.เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และ กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
2.เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
วันที่ 22 มกราคม 2566 (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)