DTAC จ่ายค่าคลื่น 700-900 MHz กว่า 5.9 พันล้าน
DTAC เผย “ดีแทค ไตรเน็ต” จ่ายค่าคลื่น 700 MHz งวดที่ 3 มูลค่า 1.88 พันลบ. พร้อมค่าคลื่น 900 MHz งวดที่ 5 มูลค่า 4.07 พันลบ. รวมจ่ายกว่า 5.9 พันลบ.
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ระบุว่า บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ยื่นชำระค่าคลื่นความถี่ 700 MHz งวดที่ 3 จำนวนเงิน 1,881,488,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือวงเงิน 6,585,208,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และชำระเงินค่าคลื่นความถี่ 900 MHz งวดที่ 5 จำนวนเงิน 4,072,848,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือวงเงิน 10,385,762,400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากการประมูลและได้รับการจัดสรรคลื่น โดยได้ชำระเงินแก่ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566
โดยดีแทคนำคลื่น 700 MHz ซึ่งเป็นคลื่นย่านความถี่ต่ำมาขยายความครอบคลุมพื้นที่ใช้งานและเพิ่มความจุของโครงข่ายทั่วประเทศ เพื่อยกระดับประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสู่ลูกค้าทุกคน ทำให้ลูกค้าใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ดีแทคมุ่งพัฒนาโครงข่ายสำหรับให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ดีแทคได้ขยายสถานีฐานคลื่น 700 MHz โดยติดตั้งแล้วทั้งสิ้นประมาณ 18,800 สถานีฐาน (ข้อมูลไตรมาส 3/2565) ลูกค้าดีแทคสามารถใช้งานด้วยประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นจากคลื่น 700 MHz ทั้งการใช้งานในพื้นที่ห่างไกล และพื้นที่ในเมืองโดยเฉพาะอาคารสูงต่างๆ อีกด้วย
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งพัฒนาโครงข่ายและนำคลื่นความถี่ทั้งคลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง มาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและครอบคลุมพื้นที่การให้บริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น เรามุ่งเน้นกลยุทธ์การนำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาสู่ลูกค้าทุกคนทั้งผู้ใช้งานในเมือง อาคารสูง แหล่งชุมชน และภูมิภาคต่างๆ พื้นที่ห่างไกล รวมถึงพัฒนาสัญญาณสู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อลูกค้าทุกคน
สำหรับใบอนุญาตคลื่นทั้งสองความถี่คือ 700 MHz ขนาด 2 x 10 MHz จำนวน 1 ชุด มีอายุการใช้งาน 15 ปี หรือ จนถึง พ.ศ. 2578 และคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ขนาด 2×5 MHz จำนวน 1 ชุด มีอายุการใช้งาน 15 ปี หรือจนถึง พ.ศ. 2576