ถึงไทยแล้ว! “นักท่องเที่ยวจีน” 269 คน “อนุทิน” แย้มข่าวดียกเลิกตรวจ “ใบรับรองวัคซีน”
“อนุทิน” ร่วมต้อนรับจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย หลังจีนประกาศเปิดประเทศ โดยมีผู้โดยสารกลุ่มแรก จำนวน 269 คน อีกทั้งเที่ยวบินขาเข้ารวม 3.4 พันคน มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขแสดงได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม รวมถึงไม่มีสุ่มตรวจโรคโควิด-19
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย ภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน โดยสายการบิน Xiamen Airlines เที่ยวบิน MF833 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 12:19 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 269 คน อีกทั้งในวันนี้จะมีเที่ยวบินขาเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 15 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางการรับนักท่องเที่ยวเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ โดยมีข้อกำหนดและแนวทางการปฏิบัติเดียวกัน ซึ่งช่วงเช้าวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการภายใต้ พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเป็นกรรมการ ร่วมกันหารือถึงข้อกำหนดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยได้ข้อสรุปที่เหมาะสม จะไม่มีการกำหนดเงื่อนไขแสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และไม่มีการสุ่มตรวจโรคโควิด-19 จากนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ จากข้อมูลจำนวนผู้โดยสารของ ทอท. คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ประมาณ 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกท่าอากาศยาน โดยมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ
สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า และการให้บริการรถสาธารณะ ที่พบก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ปัจจุบันพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ซึ่งมีความรวดเร็วขึ้น
ส่วนการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนการให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และจัดระเบียบ ขยายพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารใช้เวลารอคิวใช้บริการประมาณ 10 นาทีต่อคน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยั่งยืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น