ลดกระแส “รฟท.” ระงับรื้อป้าย “สถานีกลางบางซื่อ” 33 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ได้มีการจัดทำโครงการปรับปรุงป้ายชื่อของ สถานีกลางบางซื่อ  แล้วเปลี่ยนไปเป็น เป็น “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ซึ่งการเปลี่ยนดังกล่าวนั้นมีการใช้วงเงินถึง 33 ล้านบา จนสร้างเป็นข้อวิจารณ์ของสังคมตามมา ขณะเดียวกันก็มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการตรวจการใช้งบอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความชัดเจน

โดยล่าสุด วันนี้ ( 9 ม.ค. 66 ) รฟท. มีหนังสือสั่งระงับการติดตั้งและรื้อถอนป้ายชื่อ “สถานีกลางบางซื่อ” โดยมีรายละเอียดใจความสำคัญคือ  ให้ระงับงานซื้อ  ย้าย จัดหา และติดตั้งงานก่อสร้างปรับปรุงป้ายชื่อ “สถานีกลางบางชื่อ” เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย   โดยเรียนไปถึงกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ  อ้างถึง 1. สัญญาจ้างก่อสร้างที่ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2565 และ 2.หนังสือการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2565 และ  3.หนังสือบริษัท UNIQ ลงวันที่ 3 มกราคม 2566

ตามหนังสือที่อ้างถึง 3  รฟท.ได้ลงนามสัญญาจ้างผู้รับจ้าง UNIQ โครงการปรับปรุงป้ายชื่อ “สถานีกลางบางชื่อ” เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ต่อมาการรถไฟฯ ได้มีหนังสือแจ้งวันส่งมอบ สถานที่ก่อสร้างและแจ้งให้เริ่มงานในวันที่ 3 มกราคม 2566 ถึงบริษัทฯ ตามอ้างถึง 2 และเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 บริษัทฯ มีหนังสือแจ้งยืนยันการรับมอบสถานที่และยืนยันการเริ่มงานตามหนังสือที่อ้างถึง 3 นั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์ขอให้ระงับงานปรับปรุงป้ายชื่อ “สถานีกลางบางชื่อ” เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของ การรถไฟแห่งประเทศไทยไปก่อน  และจะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการต่อไป

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. รับเรื่องตรวจสอบกรณี รฟท. จัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้านบาท ว่า ทางกระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องให้เวลาคณะกรรมการฯ พิจารณา 15 วัน อย่างไรก็ตาม ทาง ป.ป.ช.มีการประสานเพื่อขอข้อมูลมา ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวของกระทรวงพร้อมชี้แจงต่อ ป.ป.ช. .