GULF ลุ้นกำไรปี 66 ทะลุ 1.5 หมื่นล้าน โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 60 บ.
GULF ลุ้นกำไรปกติปี 66 ทะลุ 1.5 หมื่นล้าน มีโครงการหลักหนุนจาก COD โครงการ IPPGPD กําลังการผลิตรวม 928 MW ในไตรมาส 2/66 และไตรมาส 4/66 พร้อมรับรู้รายได้โครงการ Jackson ในต้นปี 66 อยู่ที่ 588 MW
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเรื่องสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของภาครัฐที่มากกว่า 51% นั้นไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะมาตราดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การรักษากรรมสิทธิ์ของภาครัฐที่มีอยู่เดิม แต่ไม่มีการห้ามไม่ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ศาลฯยังวินิจฉัยว่าประเด็นดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
โดยจากประเด็นข้างต้น บล.เคจีไอ มองบวกว่าประเด็นที่เคยค้างคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าตั้งแต่ 15 ก.ย. 2565 ก็จะหมดไปแล้วทำให้หมดความกังวลสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่ฝ่ายวิจัยยกให้ปี 2566 เป็นท็อปพิก บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
นอกจากนั้น บล.ดาโอ ประเมินว่า GULF ในช่วงไตรมาส 4/2565 คาดกําไรฟื้นตัวทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากการ COD โครงการใหม่และการปรับค่า Ft ขึ้นประเมินกําไรปกติไตรมาส 4/2565 ที่ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนและจากไตรมาสก่อน จาก1) การ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มระหว่างปีประกอบด้วย IPP GSRC กําลังการผลิตรวม 928 MWe ในไตรมาส 2/2565 และไตรมาส 4/2565
2) JV GULF GUNKUL 85MWe เมื่อไตรมาส 3/2565 และ 3) ผลบวกจากต้นทุนและค่า Ft โดยราคาก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 4/2565 คาดอยู่ที่ราว 500 บาท/MMBTU (เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 12% จากไตรมาสก่อน) และค่า Ft ปรับขึ้นมาที่ 0.93 บาท/หน่วย (จาก -0.15 บาท/หน่วย ในไตรมาส 4/2563 และ 0.25 บาท/หน่วย ในไตรมาส 3/2565
ขณะเดียวกันประมาณการกำไรปกติปี 2565-2566 เติบโตเด่นจากโครงการใหม่ หากกําไรปกติไตรมาส 4/2565 ออกมาใกล้เคียงกับที่ประเมินจะทำให้กําไรปกติปี 2565 อยู่ที่ราว 1.1 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ยังอยู่ในกรอบประมาณการเดิม ในขณะที่กําไรปกติปี 2566 เบื้องต้นยังคงประมาณการที่ 1.5 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีโครงการหลักหนุนคือการ COD โครงการ IPPGPD กําลังการผลิตรวม 928MWe ในไตรมาส 2/2566 และไตรมาส 4/2566 และการรับรู้รายได้ของโครงการ Jackson ในต้นปี 2566 อยู่ที่ 588MWe
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 60.00 บาท อิง SOTP ทั้งนี้ Key catalyst ยังคงเป็น active investment ทั้งในและต่างประเทศ โดย short-term catalyst คือโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในไทย 5.2GW และการประกาศแผนพัฒนาไฟฟ้าของเวียดนามคาดชัดเจนในครึ่งแรกของปี 2566 ในขณะที่ความเสี่ยงปัจจุบันคือราคาก๊าซฯที่ผันผวนมากกระทบผลประกอบการ