จับตา “นักท่องเที่ยว” เข้าไทยปีนี้ทะลัก 25.5 ล้านคน เม็ดเงินสะพัดกว่า 1 ล้านลบ.
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ปรับประมาณการยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี 66 แตะ 25.5 ล้านคน หลังจีนแห่เที่ยวไทยคึกคัก คาดสร้างรายได้ธุรกิจภาคท่องเที่ยว 1.07 ล้านล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งปี 66 เพิ่มขึ้นเป็น 25.5 ล้านคน (กรอบ 24-26 ล้านคน) จากเดิมที่คาดว่าจะมีจำนวน 22 ล้านคน (คาดการณ์เมื่อ 9 ธ.ค. 65) ขณะที่การใช้จ่ายของชาวต่างชาติเที่ยวไทย สร้างรายได้สู่ธุรกิจท่องเที่ยว คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย จะมีประมาณ 4.65 ล้านคน หรือกลับมาประมาณ 42% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปี 62
ส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูงขึ้น อาจจะส่งผลต่องบประมาณการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในไทยที่อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 62 ดังนั้น จึงประเมินว่าการใช้จ่ายของชาวจีนเที่ยวไทยสู่ธุรกิจท่องเที่ยว อาจจะมีมูลค่าประมาณ 1.86 แสนล้านบาท หรือกลับมา 36% ของการใช้จ่ายของชาวจีนเที่ยวไทยในปี 62
ทั้งนี้การปรับประมาณการดังกล่าว เป็นผลมาจากที่ทางการจีนผ่อนคลายกฎระเบียบการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ และการจำกัดจำนวนผู้โดยสายเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 ที่ผ่านมา และเริ่มเปิดให้ชาวจีนเข้าทำหนังสือเดินทาง และต่ออายุหนังสือเดินทาง (Passport) อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นข่าวดีต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย
ด้านฝ่ายวิจัยระบุว่า หลังจากที่มีการผ่อนคลายกฎระเบียบดังกล่าว ชาวจีนได้ให้ความสนใจในการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่า การผ่อนคลายกฎระเบียบครั้งนี้เร็วกว่าที่คาด ย่อมมีผลต่อทิศทางตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 66 ที่น่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมการเร่งตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 66 จะเริ่มเห็นชัดเจนช่วงไตรมาส 2 และน่าจะก้าวกระโดดมากขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง แปรผันตามการขยายเส้นทางการบิน และความถี่ของเที่ยวบินระหว่างจีนและไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ที่จำนวนเที่ยวบินต่อวันจากจีนมาไทย อาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในระหว่างปี เมื่อเทียบกับประมาณ 1,035 เที่ยวบินในช่วงไตรมาสแรกปี 66 หรือเฉลี่ยประมาณ 11-15 เที่ยวบินต่อวัน และเทียบกับในช่วงที่จีนปิดประเทศเฉลี่ยที่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เที่ยวบินต่อวันในปี 66 อาจจะกลับมาราว 60-70% จากก่อนโควิด
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 66 เมื่อเส้นทางการบินกลับมาขยายตัว ควบคู่กับการทำการตลาดของหน่วยงานท่องเที่ยวและผู้ประกอบการมีมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าไทยถูกเลือกเป็นหนึ่งในประเทศนำร่อง ของการฟื้นฟูการเดินทางแบบกลุ่มขนาดใหญ่ คงจะทำให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในไทยเร่งตัวขึ้นก้าวกระโดดจากช่วงครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ดีการกลับมาเปิดเส้นทางการบินจนถึงปลายปี 66 อาจจะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 93 เที่ยวบินต่อวัน (รวมเช่าเหมาลำ) ในช่วงก่อนการระบาดของโควิดในปี 62 เนื่องจากจำนวนชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแม้เพิ่มขึ้น แต่อาจยังมีจำกัด และการจัดการด้านทรัพยากรรองรับคงต้องใช้เวลา อาทิ เครื่องบิน, นักบิน, พนักงานภาคพื้น เป็นต้น
นอกจากนี้ศูนย์วิจัยฯ ยังประเมินว่า การใช้จ่ายต่อทริปในไทยของชาวจีนในปี 66 อาจไม่เพิ่มหากเทียบกับก่อนโควิดในปี 62 เนื่องจากชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยว ต้องกันค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางสูงขึ้น (ค่าตั๋วเครื่องบิน+ค่าประกันสุขภาพ) บนเงื่อนไขการตั้งงบประมาณการเดินทางตลอดทริปที่เท่าเดิม จากสถานการณ์เศรษฐกิจและรายได้ที่ไม่ได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงถัดๆ ไปของปี หากการระบาดของโควิดบรรเทาลง และผู้ประกอบการกลับมาทำการตลาดมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ค่าใช้จ่ายที่ต้องกันไว้นี้อาจจะลดลง และทำให้ชาวจีนมีเม็ดเงินใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น จากช่วงต้นปีได้และยังคงต้องติดตามมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนของต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ยุโรป เป็นต้น ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจากปัจจุบัน ประกอบกับการท่องเที่ยวระยะไกล มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ชาวจีนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว จะเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง