5 โบรกเชียร์ “ซื้อ” TFG เคาะเป้าสูง 10.73 บ. ลุ้นกำไรปี 66 โตแกร่ง รับราคาหมู-ไก่พุ่ง
โบรกประสานเสียง! เชียร์ “ซื้อ” TFG ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 7.00-10.73 บาท/หุ้น จับตากำไรปี 66 เติบโตแข็งแกร่ง รับราคาเนื้อสัตว์หมูและไก่สูงต่อเนื่อง มองอัพไซด์เพียบ เชื่อธุรกิจค้าปลีกปี 66 เติบโตได้เท่าตัว
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้น TFG มีราคาถูกที่สุดของกลุ่มผู้ประกอบการปศุสัตว์ไทย โดยประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานอยู่ที่ 10.73 บาทต่อหุ้น เนื่องจากราคาปศุสัตว์ไทยที่ยังคงยืนในระดับสูง บวกกับวอลุ่มขายที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต ธุรกิจร้านค้าปลีกที่ใกล้ถึงจุดคุ้มทุน และอัตราค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มลดลง จึงคาดว่ากำไรในปี 2566 จะยังคงมีแนวโน้มขยายตัวจากปีก่อน ซึ่งมูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่าถูกมาก โดยค่า PER อยู่เพียงแค่ 6 เท่า
สำหรับในปี 2566 บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดหมูในประเทศไทยจาก 10% ไปเป็น 15% ในอนาคตอันใกล้ โดยหลักๆ จะมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 60% ของทั้งธุรกิจหมูในประเทศไทยและเวียดนาม รวมทั้งบริษัทคาดวอลุ่มส่งออกไก่ รวมไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูป จะเพิ่มขึ้นอีก 27%
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” TFG ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 8.50 บาท ด้วย Valuation ที่ถูก ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดบนค่า PE ปี 2566 เพียง 8.9 เท่า ประกอบกับแนวโน้มวัตถุดิบน่าจะทยอยอ่อนตัวลง รวมถึงค่าขนส่งที่ลดลงต่อเนื่องและบริษัทยังมีแผนขยายสาขาร้านค้าปลีก
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” TFG ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท อิง 10.0 เท่าจากค่า PE ปี 2566 ต่ำสุดตั้งแต่จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ โดยปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ 6.5 เท่า จากค่า PE ปี 2566 คิดเป็นส่วนลด 67% และ 4% ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี ของบริษัท และค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่ 10.4 เท่า ประเมินค่า PE ปี 2566 ขณะที่อัตรากำไรที่สูงขึ้นจากการขยายกําลังการผลิต และการขยายสาขาเชิงรุกจะช่วยกระตุ้นอัพไซด์ต่อประมาณการปี 2566 ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้ซื้อหุ้น TFG โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 7.30 บาท เนื่องจากราคาหุ้นถูกและคาดว่ากำไรจะยังอยู่ในระดับสูงในปีหน้า ขณะที่ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรในปี 2565 เพิ่มขึ้น 10% และปี 2566 อีก 11% เนื่องจากผลประกอบการออกมาดีเกินคาด และปีหน้ามีแผนขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น
ทั้งนี้ ประเมินว่าธุรกิจการส่งออกในปีหน้ายังแข็งแกร่ง โดยคาดว่าราคาหมูในปี 2566 น่าจะได้อานิสงส์จากภาวะอุปทานขาดแคลนไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย และน่าจะยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ รวมทั้งบริษัทมีการแผนขยายการส่งออกไปยังตลาดที่มีศักยภาพ เช่น มาเลเซีย, ญี่ปุ่น และในปีหน้ายังมีแผนการขยายธุรกิจไก่แปรรูปอีก 20% และจะเริ่มจำหน่ายสินค้าโดยใช้แบรนด์ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่นอีกด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จํากัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TFG โดยให้ราคาเป้าหมาย 7 บาท ประเมินว่า แนวโน้มธุรกิจไก่และหมูของ TFG จะยังดีต่อเนื่องในปี 2566 จากปัญหาการขาดแคลน หนุนแนวโน้มราคาหมูและไก่จะยืนสูงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากการขยายกำลังการเลี้ยงหมูในไทยและเวียดนามที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะการเน้นขายไก่ไปสู่ช่องทางที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการส่งออกไก่สู่ต่างประเทศ สนับสนุนให้รายได้รวมและประสิทธิภาพการทำกำไร จะยังดีต่อเนื่องในปี 2566