สอบเพิ่ม “อัยการ” คดี “อดีตรองนายก” ฟ้องฉ้อโกงสาวคนสนิท
รองโฆษกอัยการ ชี้แจงกรณีที่ตำรวจส่งสำนวนคดีของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ฟ้องครอบครัวสามี-ภรรยา ที่มีขอพิพาทปมชู้สาว ฐานฉ้อโกง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการสั่งสอบเพิ่มเติมอยู่
จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความและเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ออกมาเปิดเผยกรณีรับมอบอำนาจจากสามีชื่อย่อ ก. เป็นโจทก์ฟ้องแพ่งเรียกค่าตอบแทนจากอดีตรองนายกรัฐมนตรี ชื่อย่อ ย. เป็นจำเลยต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตั้งแต่เดือน ธ.ค.65 กรณีเป็นชู้กับภรรยาของตน อ้างว่ามีหลักฐานทั้งข้อความพูดคุยโต้ตอบทำนองชู้สาว และภาพถ่ายวาบหวิวระหว่างอยู่ด้วยกันเป็นหลักฐาน และในเวลาต่อมานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.มหาดไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่ใช่บุคคลที่ถูกทนายตั้มระบุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
จนต่อมาในโลกโซเชียล ได้มีการเผยแพร่หนังสือที่ พ.ต.ท.วันชัย พันธพัฒน์ สารวัตรสอบสวน สน.บางยี่ขัน กรุงเทพมหานคร ส่งถึง นาย ย. อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้เสียหาย โดยมีการระบุว่า ตามที่นาย ย. ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ นางสาว ธ. สาวคนสนิท ที่ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1, นาย จ. ซึ่งสามีตัวจริงของสาวคนสนิท ผู้ต้องหาที่ 2, นาง ธ. มารดาของสาวคนสนิทผู้ต้องหาที่ 3 และ นาย พ. บิดาของสาวคนสนิท ผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ และได้ดำเนินการสอบสวน พร้อมส่งสำนวนอัยการแล้ว
ล่าสุด นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งคดีนี้ฝ่ายผู้ต้องหามีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาทางพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน อัยการจึงสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะพิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป
หากถ้าผลการสอบสวนที่ทางพนักงานอัยการสั่งสอบเพิ่มส่งมาไม่ทันอัยการพิจารณาสั่งคดีวันที่ 15 ม.ค.นี้ ในทางกฎหมาย ตัวผู้ต้องหาจะต้องพ้นการคุมตัวของศาล และคดีจะต้องขออนุญาตอัยการสูงสุดฟ้อง หากมีคำสั่งฟ้องทางตำรวจจะต้องนำตัวผู้ต้องหามาให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลอีกครั้ง
สำหรับความผิดคดีแขวง ซึ่งสามารถยื่นคำร้องผัดฟ้องได้ 5 ครั้งๆละ 6 วัน รวม 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันสุดท้ายวันที่ 15 ม.ค.นี้ โดยพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน สรุปสำนวนส่งให้อัยการคดีอาญาตลิ่งชัน 2 พิจารณาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานอัยการต้องพิจารณาสั่งคดีภายในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ตามกฎหมาย