สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ม.ค. 2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ม.ค. 2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (13 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นหลังจากเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,302.61 จุด เพิ่มขึ้น 112.64 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,999.09 จุด เพิ่มขึ้น 15.92 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,079.16 จุด เพิ่มขึ้น 78.05 จุด หรือ +0.71%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (13 ม.ค.) ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มธนาคาร รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 452.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,023.50 จุด เพิ่มขึ้น 47.82 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,086.52 จุด เพิ่มขึ้น 28.22 จุด หรือ +0.19% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,844.07 จุด เพิ่มขึ้น 50.03 จุด หรือ +0.64%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (13 ม.ค.) ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2561 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,844.07 จุด เพิ่มขึ้น 50.03 จุด หรือ +0.64% และปิดตลาดบวกขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (13 ม.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และมีสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 79.86 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 8.4% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 85.28 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 8.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนในวันศุกร์ (13 ม.ค.) และปิดเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐชะลอตัวลง และคาดว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 22.9 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ระดับ 1,921.7 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเป็นการปิดตลาดเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. และปิดตลาดสัปดาห์นี้บวก 2.8%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 36.8 เซนต์ หรือ 1.53% ปิดที่ 24.372 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 11.8 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 1,072.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,787.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (13 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.08% แตะที่ระดับ 102.2110
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 127.93 เยน จากระดับ 129.34 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9270 ฟรังก์ จากระดับ 0.9289 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.3850 โครนา จากระดับ 10.4131 โครนา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3390 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3359 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0828 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0851 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.2228 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2218 ดอลลาร์