ORI ปิดปี 65 ยอดขายบ้าน-คอนโด “ออลไทม์ไฮ” 4.1 หมื่นล้าน ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ

ORI ตอกย้ำผู้นำอสังหาริมทรัพย์ กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดปี 65 กว่า 41,026 ล้าน แย้มทิศทางปี 66 พร้อมบุกหัวเมืองต่างจังหวัดนอก EEC ครั้งแรก และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 20%


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ยอดขาย (Presales) โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 41,026 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ที่ 35,000 ล้านบาท และเติบโตจากปี 2564 ถึง 36% ถือเป็นยอดขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) โดยแบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มบ้านจัดสรร 27% ซึ่งยังคงทำยอดขาย All Time High ต่อเนื่องตามแผน และกลุ่มคอนโดมิเนียม 73% เมื่อแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ประมาณ 53% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) อีกราว 47%

ยอดขายที่เกิดขึ้น มาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และความแข็งแกร่งของเราใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์ราคา 2.มีสินค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต 3.มีสินค้าทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมกระจายตัวในหลากทำเล ทั้งหมดนี้ทำให้เราได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีในช่วงที่สถานการณ์ COVID-19 ค่อยๆ คลี่คลาย และบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา” นายพีระพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้กลุ่มโครงการที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี คือกลุ่มโครงการที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่อย่างกลุ่มคอนโดมิเนียมตอบโจทย์ลูกค้า Startup เช่น ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) ที่มีบริการและฟังก์ชันตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจ Startup และใกล้สำนักงานต่างๆ (ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการนนทบุรี และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ฯ), กลุ่มคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Lover เช่น ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn) ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง พร้อมทั้งขนาดห้องแบบ Duo Space เพดานสูง 4.2 เมตร, กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาว (Investment Property Program) ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มลงทุน เช่น บริกซ์ตัน แคมปัส บางแสน (Brixton Campus Bangsaen) ที่ใกล้สถานศึกษา

นอกจากนี้กลุ่มโครงการระดับลักชัวรี เช่น โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ (So Origin Kaset Interchange) และ โซ ออริจิ้น พหล 69 (So Origin Phahol 69) และโครงการที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ เช่น พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (Park Origin Thonglor) ตลอดจนกลุ่มโครงการในแถบเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ก็สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันการกลับมาจัดอีเวนท์ขายที่อยู่อาศัยแบบ On-site ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยสร้างยอดขายให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้น หลังจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ช่องทางการขายหลัก คือช่องทางออนไลน์

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2566 นั้น ยังมีสัญญาณบวกจากรอบด้าน อาทิ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นกว่าปี 2565 เป็นเท่าตัว สถานการณ์กำลังซื้อทั้งในและต่างประเทศฟื้นตัว GDP ของประเทศที่อาจเติบโต 3-5% ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

โดยจากสถานการณ์ดังกล่าว ออริจิ้น จึงมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประมาณ 20% มีไฮไลต์สำคัญ คือการบุกเข้าสู่ทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไปมาก่อนในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ตลอดจนตลาดหัวเมืองท่องเที่ยวนอกเหนือจากแถบ EEC ด้วย พร้อมกันนี้จะยังคงรักษาสถานะเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับคน Gen Y และ Gen Z คู่ขนานไปกับการตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ คาดว่าจะเปิดเผยภาพรวมแผนธุรกิจของทั้งเครือได้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายไตรมาส 1/2566

Back to top button