“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 400 จุด ผิดหวังงบ “โกลด์แมนแซคส์” ต่ำคาด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 391.76 จุด นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการ “โกลด์แมนแซคส์” ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วงลงในวันอังคาร (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นเทสลาเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,910.85 จุด ร่วงลง 391.76 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,990.97 จุด ลดลง 8.12 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,095.11 จุด เพิ่มขึ้น 15.96 จุด หรือ +0.14%

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งหลุดจากระดับ 34,000 จุด หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2565 เนื่องจากผลกระทบของรายได้ที่ลดลงในธุรกิจวาณิชธนกิจและธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดยรายงานดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดตลาดร่วงลง 6.44%

ขณะที่กำไรต่อหุ้นของโกลด์แมน แซคส์ ในไตรมาส 4 อยู่ที่ 3.32 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.48 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.059 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.083 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงสู่ระดับ -32.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -7 จากระดับ -11.2 ในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก อันเนื่องมาจากผลกระทบของอุปสงค์ที่ซบเซา ซึ่งส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานของภาคการผลิตในนิวยอร์กชะลอตัวลง

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุร่วงลง 1.07% และดัชนีหุ้นกลุ่มสื่อสารลดลง ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 0.44%

ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวกสวนทางภาพรวมของตลาด โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้น 7.4% หลังมีรายงานว่ายอดขายรถยนต์เทสลาในประเทศจีนในระหว่างวันที่ 9-15 ม.ค. พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 76% แตะที่ 12,654 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 หลังจากบริษัทปรับลดราคารถยนต์รุ่น Model 3 และ Model Y ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ขายดีของเทสลา

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 6.19% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 1.31 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.19 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง

ด้านนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.

Back to top button