KBANK สำรองอ่วมเซ่น “รายได้ลม” ช่วงพักหนี้ กดกำไร Q4/65 ทรุดฮวบ 70%

KBANK ไตรมาส 4/65 ตั้งสำรองอ่วม 2.28 หมื่นลบ. พุ่งขึ้นจาก 9.95 พันลบ. ในไตรมาส 3/65 เซ่น “รายได้ลม” ช่วงพักหนี้ กดกำไรเหลือ 3.19 พันลบ. ทรุดฮวบ 70% จากไตรมาสก่อนกำไร 1.06 หมื่นลบ. ดัน “คอฟเวอเรจ เรโช” เพิ่มเป็น 154% รับสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้


ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 65 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65 ดังนี้

ขณะที่ในงวดไตรมาส 4/65 ธนาคารและบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 3,191 ล้านบาท ลดลง 69.82% จากไตรมาส 3/65 ที่มีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 10,574 ล้านบาท และลดลง 67.77% จากไตรมาส 4/64 ที่มีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 9,901 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 22,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 ที่มีจำนวน 9,948 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 129.03% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/64 ที่มีจำนวน 9,580 ล้านบาท โดยอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 อยู่ที่ระดับ 154.26% เพิ่มขึ้นจากสิ้นวันที่ 30 ก.ย.65 อยู่ที่ระดับ 148.74% ขณะที่ NPL ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65 อยู่ที่ระดับ 3.19% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 ที่อยู่ที่ระดับ 3.07%

อนึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการพักชำระเงินต้น และ/หรือดอกเบี้ยของลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยต่อมา “ธปท.” ได้ผ่อนปรนผ่อนปรนหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสำหรับสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อบรรเทาภาระการจ่ายชำระหนี้ โดยลดอัตราการผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตในปี 65– 66 รวมถึงขยายเพดานวงเงินบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน) และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 65

Back to top button