หุ้นโรงแรมตีปีก! ยิ้มรับโบรกอัพเป้า “นักท่องเที่ยวจีน” ทะลักเข้าไทย 28 ล้านคน

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุน “Overweight” กลุ่มโรงแรม โดยปรับเพิ่มประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 66 ใหม่เป็น 28 ล้านคน (จากเดิม 25 ล้านคน) เพื่อสะท้อนสมมติฐาน 1.ปรับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านคนเป็น 5.5 ล้านจากผลของการเปิดประเทศเร็วกว่าคาด และ 2.) โมเมนตัมที่เร่งตัวขึ้นของชาติอื่นๆ โดยเฉพาะ ASEAN อินเดีย และตะวันออกกลาง

ทั้งนี้คาดกำไรปกติรวมในไตรมาส 4/65 ที่ 2.5 พันล้านบาท โต 70% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 14% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่เริ่มมี COVID-19 แพร่ระบาด โดยมีปัจจัยบวกสำคัญมาจาก 1.) สถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้นโดยภาพรวม 2.) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว และ 3.) EBIT margin รวมดีขึ้น ทั้งนี้จากปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยสนับสนุนให้ occupancy เฉลี่ยสูงขึ้นเป็น 70% ในไตรมาส 4/65 จาก 64% ในไตรมาส 3/65 และ Rev Par จะแตะที่ 3,083 บาท โต 94% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 14% เทียบไตรมาสก่อนหน้า

โดยคาดว่ากำไรปกติของ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA จะ outperform ในรอบนี้ โดยฟื้นตัวได้ดีทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่โมเมนตัมกำไรสุทธิของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR จะอ่อนแอลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า (แต่ยังคงเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากโรงแรมในยุโรปเข้าสู่ low season และความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า

โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้นอีก 254% และปี 66 ขึ้น 30% บนสมมติฐาน 1.) ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ที่ 28 ล้านคน ปี 66 และ 2. EBIT margin ที่สูงขึ้น โดยมีปัจจัยหลักสำคัญมาจาก i) สมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566F ใหม่ที่ 28 ล้านคน และ ii) EBIT margin สูงขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด และความกังวลด้านต้นทุนที่เกิดจากเงินเฟ้อในยุโรปเริ่มคลี่คลายลง ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 2565-2566F ของ ERW และ SPA ไว้เช่นเดิม เนื่องจากล่าสุดเราได้ปรับประมาณการไปแล้วในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566

ในปี 66 มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของ CENTEL,MINT และ SHR ขึ้น 6.4% 42.7% และ 66.5% ตามลำดับ โดยที่กำไรสุทธิของ CENTEL ถูกปรับเพิ่มขึ้นจาก OCC ในประเทศไทยที่สูงขึ้น ขณะที่ กำไรสุทธิของ MINT และ SHR ถูกปรับสูงขึ้นสะท้อน margin ที่สูงขึ้นเป็นหลัก จากความกังวลด้านต้นทุนที่คลี่คลายลง ภายหลังจากปรับประมาณการ เราคาดกำไรสุทธิรวมในปี 66 ที่ 9.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 564% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ศึกษาทุกตัวจะพลิกฟื้นกลับมามีกำไรได้ในปีนี้

โดยคงให้น้ำหนักกลุ่มโรงแรม Overweight จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ยังสดใส โดยมีหุ้นเด่นคือ ERW แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท) และ SHR แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.10 บาท

อย่างไรก็ตามล่าสุดรัฐบาลจีนจะอนุญาตให้บริษัททัวร์และบริษัทท่องเที่ยวในระบบออนไลน์ สามารถจัดส่งนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. โดยประเทศที่กรุ๊ปทัวร์ของจีนสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวมีจำนวน 20 ประเทศ ซึ่งได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ กัมพูชา สปป.ลาว มัลดีฟส์ ศรีลังกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เคนยา แอฟริกาใต้ รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี ฟิจิ นิวซีแลนด์ คิวบา และอาร์เจนตินา

ก็ต้องติตตามการเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวจีนว่าจะเร่งตัวกว่าตามโบรกเกอร์คาดปีนี้ราว 5 ล้านคนได้หรือไม่ ผสานจีนอนุญาตทัวร์จีนเข้าไทยจะช่วยหนุนให้ยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยปี 66 แตะ 28 ล้านบาทตามโบรกคาดการณ์ได้หรือไม่