SNNP วางเป้า “ยอดขายตปท.” ปีนี้โต 50% เร่งเครื่องเฟส 2 “เวียดนาม” รับดีมานด์พุ่ง
SNNP วางเป้ายอดขายต่างประเทศในปี 66 เติบโตกว่า 50% โดยเร่งเดินเครื่องไลน์การผลิตเฟส 2 ในประเทศเวียดนามต่อเนื่องไตรมาส 2/66 รับดีมานด์พุ่ง ขณะเดียวกันเดินหน้าโรดโชว์กองทุน
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะลุยสร้าง Brand Portfolio อย่างต่อเนื่อง ให้กับสินค้าหลักอย่าง เจเล่ และเบนโตะ รวมถึงโลตัส และเมจิกฟาร์ม โดยการสร้างการรับรู้ทางการตลาดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
สำหรับการปรับโฉมสินค้าใหม่ ออกแบบดีไซน์ที่เน้นความทันสมัย รวมถึงการเปิดตัวหนังโฆษณา ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความคึกคัก และความน่าสนใจให้กับตลาดกลุ่มเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวได้อย่างแน่นอน
ส่วนตลาดในประเทศเวียดนาม นอกจากการเปิดโรงงาน S.T.FOOD MARKETING ในเฟส 1 เมื่อไตรมาส 4 ปี 2565 ที่ผ่านมาแล้ว ไลน์การผลิตเฟส 2 ก็จะผลิตสินค้าได้ในไตรมาส 2 ปี 2566 ตามแผนงานที่ได้ดำกำหนดไว้ นอกจากนั้นยังขยายฐานการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเปิดศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 50 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายสินค้า ให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า กลุทธ์แผนปฎิบัติการในปี 2566 ของบริษัท จะมีความแข็งแกร่งและมั่นคง มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสินค้าหลักของบริษัทจะได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภค จากทั้งในประเทสและต่างประเทศสนับสนุนผลงานให้เป็นตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทคาดรายได้จากการขายปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยจะมาจากยอดขายในประเทศโตราว 15% หลังการบริโภคฟื้นตัว กลับมาดีกว่าก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว ขณะที่ยอดขายต่างประเทศวางเป้าหมายโตสูงถึง 50%
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมความพร้อมด้านการผลิตเพื่อรองรับการบริโภคที่จะกลับมาไว้แล้ว โดยจะเร่งผลิตสินค้า “เบนโตะ” ในเวียดนามให้เริ่มได้ในเดือนพ.ค.66 เร็วกว่าแผนเดิมในไตรมาส 3/2566 ขณะเดียวกันได้ปรับลดขนาดบรรจุภัณฑ์ (pocket-size) เพื่อดันมาร์จิ้นเพิ่มประมาณ 7-8% โดยล่าสุด เตรียมส่งสินค้า pocket-size ใหม่วางขายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ใน tourist distribution (สาขาที่กระจายอยู่ในเมืองท่องเที่ยว) จำนวน 600 สาขา
ด้านยอดขายจากต่างประเทศในปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยเฉพาะในเวียดนาม บริษัทวางเป้ายอดขายเติบโตไว้ที่ 1,000 ล้านบาท จากปี 65 ที่คาดทำได้ 600 ล้านบาท รับปัจจัยบวกจากการเริ่มเดินเครื่องผลิตโรงงานใหม่ในเดือนพ.ค. 2566 ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 30%
อย่างไรก็ตามจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นก็คาดว่าจะส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยวางเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าปี 65 ที่อยู่ระดับ 30%
นอกจากนั้น นายวิโรจน์ กล่างเพิ่มเติมว่า บริษัทยังมีแผนจะเดินสายโรดโชว์แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 23 ม.ค. 2566 จะไปที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จากนั้นในวันที่ 1-3 ก.พ. 2566 จะโรดโชว์กับกองทุนสิงคโปร์ และวัน 13-14 ก.พ.66 ธนาคารซิตี้แบงก์ จะไปเยี่ยมชมโรงงานที่ประเทศเวียดนาม เป็นต้น
โดยหลังจากในปัจจุบันมีกองทุนถือหุ้น SNNP รวมกว่า 20 กองทุน มีทั้งกองทุนในประเทศและกองทุนต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันประมาณ 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง ขณะที่ในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนประมาณ 70% และนักลงทุน VI ประมาณ 5% ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อย