KTMS ปักธงรายได้ปีนี้โต 45% เดินหน้าอัพกำลังผลิต “น้ำยาไตเทียม” 3.60 ล้านแกลลอน
KTMS ลุยขยาย 14 สาขา ดันรายได้ปีนี้โต 45% เดินหน้าอัพกำลังผลิต “น้ำยาไตเทียม” แตะ 3.60 ล้านแกลลอน กางแผนเน้นการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมดันยอดขายเพิ่มเท่าตัว
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 66 จะอยู่ที่ราว 500 ล้านบาท เติบโต 45% ปัจจัยบวกมาจากธุรกิจมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี ทำให้มีอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยประมาณ 30% ต่อปี บริษัทจึงวางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่ม โดยในปีนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่ม 14 แห่งทั่วประเทศ ล่าสุดเปิดแล้ว 3 สาขา ในไตรมาส 1 นี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขารวมเป็น 5 สาขา
ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทกำลังหาพื้นที่ที่จะสร้างโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถบจังหวัดร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ เพื่อรองรับปริมาณผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้น คาดเริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/66 ภายหลังแล้วเสร็จกำลังผลิตจะเพิ่มอีกสองเท่าจากเดิม 9 แสนแกลลอน และในอนาคตคาดจะขยายเพิ่มเป็น 4 เท่าตัว หรือราว 3.60 ล้านแกลลอน/ปี
ส่วนรายได้การเติบโตของบริษัทลูกในปีนี้อย่าง (1) บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IRV) จะเติบโต 30%, (2) บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (MV) โต 100% และ (3) บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด (NEP) โต 100% สำหรับเนโฟร วิชั่นที่เป็นบริษัทร่วมทุนกับอายุรแพทย์โรคไต นั้นมีแผนจะเปิดคลินิกสาขาแรกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงไตรมาส 2/66 และมีแผนจะเปิดสาขาสองช่วงระหว่างไตรมาส 3-4/66 ที่จังหวัดพิษณุโลก
“อุตสาหกรรมไตเทียมนั้นเติบโต 15% ต่อปี ในขณะที่ KTMS เติบโตเฉลี่ย 30% ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ทั้งนี้บริษัทจึงตั้งเป้าที่จะเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีที่บริษัทได้เพิ่มทุน และมีการขยายสาขาที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ดังนั้นจึงคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตได้มากกว่า 30% จากปีที่ผ่านมา” นางสาวกาญจนา กล่าว
ขณะเดียวกันในอนาคตบริษัทมีแผนจะขยายการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีการเน้นไปทางฝั่งหน่วยไตเทียมอย่างเดียว แต่หลังจากนี้จะเพิ่มการขายแบบเซ็ทให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งในชุดนี้จะมีน้ำยาไตเทียมด้วย รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ปัจจุบันสัดส่วนการซื้อนั้นมาจากฝั่งโรงพยาบาลรัฐมากกว่าเพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานมากขึ้น และคาดยอดขายในปีนี้จะเพิ่มเป็นเท่าตัวจากปีที่ก่อน
ทั้งนี้บริษัทมีแผนประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เบื้องต้นคาดผลงานจะเป็นไปตามแผน ส่วนเรื่องการจ่ายปันผลนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา