สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ม.ค. 2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ม.ค. 2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (24 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ หลังจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กประกาศระงับซื้อขายหุ้นของหลายสิบบริษัทเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,733.96 จุด เพิ่มขึ้น 104.40 จุด หรือ +0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,016.95 จุด ลดลง 2.86 จุด หรือ -0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,334.27 จุด ลดลง 30.14 จุด หรือ -0.27%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (24 ม.ค.) โดยการปรับตัวขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 453.38 จุด ลดลง 1.11 จุด หรือ -0.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,050.48 จุด เพิ่มขึ้น 18.46 จุด หรือ +0.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,093.11 จุด ลดลง 9.84 จุด หรือ -0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,757.36 จุด ลดลง 27.31 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (24 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์นำตลาดปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนอังกฤษลดลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,757.36 จุด ลดลง 27.31 จุด หรือ -0.35%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมทั้งรายงานที่บ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.49 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 80.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ดิ่งลง 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 86.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันอังคาร (24 ม.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำด้วย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,935.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 19.5 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 23.749 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 1,066.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 34.10 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,735.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (24 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.19% แตะที่ 101.9150
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 130.02 เยน จากระดับ 130.66 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3362 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3383 ดอลลาร์แคนาดา
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนสวีเดน ที่ระดับ 10.2009 โครนา จากระดับ 10.2548 โครนา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9230 ฟรังก์ จากระดับ 0.9223 ฟรังก์
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0884 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0860 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2338 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2371 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้, ตลาดหุ้นไต้หวัน, ตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นฮ่องกง, ตลาดหุ้นมาเลเซียและตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวานนี้ (24 ม.ค.) เนื่องในเทศกาลตรุษจีน