MILL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% รุกหาพันธมิตรสร้าง New S-Curve
MILL วางเป้าหมายรายได้ปี 66 โต 10% เดินหน้าหาพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศสร้าง New-S Curve พร้อมปรับกลยุทธ์ยกระดับเป็นมากกว่าอุตสาหกกรรมเหล็กเพื่อเติบโตยั่งยืน
นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ปี 66 เป็นอีกปีที่มีความท้าทายสำหรับบริษัทในการเดินหน้าสร้างการเติบโตท่ามกลางการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย หลังจากปีก่อนบริษัทสามารถก้าวผ่านอุปสรรคและผลกระทบจากสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น เงินบาทอ่อนค่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกระทบต้นทุนการผลิตและการดำเนินงาน
โดยปีนี้บริษัทได้ปรับมุมมองใหม่ ยกระดับธุรกิจบริษัทให้เป็นมากกว่าอุตสาหกรรมเหล็ก ด้วยการผลักดันธุรกิจในกลุ่มไปสู่ “อุตสาหกรรมเหล็กเพื่อสิ่งแวดล้อม” ด้วยแนวคิด “เติบโตอย่างยั่งยืน” หรือ “Sustainability” คำนึงเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมทั้งปรับองค์กรให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อรับมือปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกเหนือการควบคุม หลังได้รับบทเรียนจากปีที่ผ่านมา ทั้งปัจจัยด้านต้นทุนพลังงาน และต้นทุนด้านการเงิน
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ในระดับ 10% ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทางธุรกิจร่วมกับลูกค้าและคู่ค้า รวมทั้งขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ รับความท้าทายที่มากขึ้น โดยบริษัทจะให้ความสำคัญการดำเนินธุรกิจในทุกมิติ ดังนี้
ด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งเสริมการสร้างคาร์บอนเครดิต เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี 2050
การส่งเสริมนโยบายต่างๆ เพื่อสร้างความยั่งยืน อาทิ การสร้างมูลค่าจากขยะอุตสาหกรรม (Waste-to-Value)
ด้านการเงินจะมุ่งเน้นความเป็นไปได้ด้านการเงิน หรือ Financial Feasibility ด้วยการวิเคราะห์ศักยภาพด้านการเงินของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุน หรือการบริหารกระแสเงินสดที่มีความเหมาะสมของโครงการเพื่อความมั่นคงทางด้านการเงิน
การบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาเพิ่มทักษะในการบริหารจัดการของพนักงาน เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพให้เติบโตก้าวหน้าในองค์กร
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเดินหน้าหาพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ทางธุรกิจให้แก่ธุรกิจในกลุ่ม (New S-Curve) มุ่งเน้นธุรกิจที่ส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัทเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน